เรียกได้ว่าที่ที่ปลอดภัยยากเหลือเกินสำหรับคนไทยในช่วงเวลานี้ เนื่องจากเมื่อวันที่ 5 ก.ค. 64 ที่ผ่านมาเกิดเหตุเพลิงไหม้ครั้งใหม่ที่โรงงานกิ่งแก้ว หรือโรงงานหมิงตี้เคมีคอลที่เกิดระเบิดจนทำให้เกิดไฟไหม้ตั้งแต่เวลา 03.10 น. จนกระทั่งสามารถควบคุมเพลิงได้แล้ว แต่ต้องเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
แต่แล้วเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เมื่อวันที่ 6 ก.ค. 64 ที่ผ่านมาเกิดการปะทุจนเกิดไฟลุกไหม้ขึ้นอีกครั้ง ซึ่งกว่าจะสงบสถานการณ์ได้ก็ต้องใช้เวลานานพอสมควร ซึ่งล่าสุดดูเหมือนว่าสถานการณ์ในพื้นที่ดังกล่าวเริ่มคลี่คลายแล้ว จะมีห่วงก็แค่เรื่องเดียวคือ กลิ่นสารเคมีที่ลอยคลุ้งในอากาสที่ชาวบ้านต้องรอประกาศให้เข้าพื้นที่ได้
เหตุการณ์ไฟไหม้โรงงานหมิงตี้เคมีคอลนี้ทำให้ประเทศไทยต้องสูญเสียผู้กล้านักผจญเพลิงไปหนึ่งราย นั่นก็คือ น้องพอส กรสิทธิ์ ราวพันธ์ วัย 19 ปีที่ถูกไฟคลอกจนเสียชีวิต พร้อมกันนี้ยังมีผู้บาดเจ็บอีกกว่า 10 คน พร้อมทั้งชาวบ้านนับพันที่ต้องอพยพไปอยู่ศูนย์พักพิงชั่วคราวเพื่อความปลอดภัย
หลังจากเหตุการณ์ไฟไหม้โรงงานกิ่งแก้วผ่านพ้นไป คนไทยก็ต้องตกใจอีกครั้ง เมื่อมีรายงานว่า เกิดเหตุไฟไหม้ ภายในนิคมอุตสาหกรรมลาดกระบัง โซน 3 ถนนฉลองกรุง เขตลาดกระบัง กรุงเทพมหานคร ซึ่งเบื้องต้นพบว่าเป็นโกดังชั้นเดียว เก็บสินค้าประเภทน้ำหอม ซึ่งเหตุการณ์นี้ถือได้ว่าเบาใจได้เพราะเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมเพลิงได้ทันเวลาและไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต
แต่แล้วเมื่อช่วงกลางดึกของวันที่ 6 ก.ค. 64 ที่ผ่านมา ได้มีรายงานอีกว่า เกิดเหตุไฟไหม้รถปิคอัพ ซอยวิภาวดีรังสิต 54 ถ.วิภาวดีรังสิต เขตหลักสี่ จนท.สถานีดับเพลิงและกู้ภัยบางเขนกำลังดำเนินการ ซึ่งไม่นานหลังจากได้รับแจ้ง เจ้าหน้าที่ก็สามารถควบคุมเพลิงได้ และจากการตรวจสอบเบื้องต้นเป็นเหตุเพลิงไหม้รถปิคอัพ ยี่ห้อนิสสัน ภายในบ้าน ไม่มีผู้บาดเจ็บ
อีกทั้งยังมีเหตุการณ์ของเจ้าโลฮาน สุนัขสะกดรอยตาม ถูกกลุ่มผู้ก่อความรุนแรง ยิงหูทะลุที่สายบุรี ขณะสะกดรอยตาม ซึ่งโลฮาน เป็นสุนัขสะกดรอยตามของ หน่วยปฏิบัติการพิเศษร่วม จ.ปัตตานี ได้ถูกคนร้ายยิงหูทะลุ ในระหว่างที่กำลังสะกดรอยตามไปเจอแหล่งหลบซ่อนตัวก่อนที่จะเกิดการปะทะกันในพื้นที่ บ.โต๊ะบาลา ต.กะดุนง อ.สายบุรี จ.ปัตตานี เมื่อวันที่ 5 ก.ค.64 เวลา 15.30 น.
อีกเหตุการที่ลืมไม่ได้คือเหตุคนร้ายลอบวางระเบิดทหารในพื้นที่ อ.จะนะ จ.สงขลา เมื่อคืนวันที่ 6 ก.ค. 64 เวลา 19.30 น. ซึ่งทำให้ประเทศไทยต้องสูญเสียทหารผู้กล้าเสียชีวิต 1 นาย คือ ส.อ.นิติพจน์ เพ็ชรรัตน์ สังกัด กองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 25 เสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่ และบาดเจ็บ อีก 3 นายได้แก่
1. พลฯจรัส ด้วงช่วย เจ็บบริเวณขา สะโพก หลัง
2. พลฯมาวิน ใสวิน หัวแตก
3. พลฯซันสุริ เดาะเลาะ หูอื้อ, แน่นหน้าอก
และศึกใหญ่ที่คนไทยร่วมต่อสู้มานานนับปีนั่นก็คือ โคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ 2019 ที่ตอนนี้ประเทศไทยสุดจะรับมมือ เนื่องจากมีรายงานผู้ติดเชื้อในตัวเลขที่สูงมากๆ ในทุกๆ วัน ซึ่งล่าสุดตามรายงานของ ศูนย์ข้อมูล COVID-19 นั้นระบุว่า ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในวันพุธที่ 7 กรกฎาคม 2564 รวม 6,519 ราย จำแนกเป็น ติดเชื้อใหม่ 6,464 ราย ติดเชื้อภายในเรือนจำ/ที่ต้องขัง 55 ราย หายป่วยกลับบ้าน 4,148 ราย ผู้ป่วยสะสม 272,309 ราย (ตั้งแต่ 1 เมษายน) เสียชีวิต 54 ราย
หากนับจำนวนยอดรวมสะสมผู้ติดเชื้อโควิด 19 ในประเทศไทยตั้งแต่ต้นนั้น จะเห็นได้ว่า ยอดผู้ป่วยพุ่งสูงถึง 301,172 ราย เสียชีวิตสะสมถึง 2,387 ราย รักษาหายเพียง 231,171 คน
นอกจากนี้ ครม. มีมติจัดหาวัคซีนโควิด-19 เพิ่มเติม ดังนี้
- วัคซีน Sinovac จำนวน 10.9 ล้านโดน จัดซื้อโดยกรมควบคุมโรค แบ่งเป็น เดือนกรกฎาคม วงเงิน 3,894.8 ล้านบาท เดือนสิงหาคม วงเงิน 2,169.96 ล้านบาท รวมค่าบริการจัดการวัคซีนและส่วนที่เกี่ยวข้อง 46.6520 ล้านบาท เป็นเงินทั้งสิ้น 6,111.412 ล้านบาท
- วัคซีน Pfizer จำนวน 20 ล้านโดส โดยมอบอธิบดีกรมควบคุมโรคเป็นผู้ลงนามในสัญญาพร้อมรับข้อสังเกตของอัยการสูงสุดไปดำเนินการในการเจรจาต่อรองกับผู้ผลิตวัคซีนไฟเซอร์ในเบื้องต้น ซึ่งยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดในสัญญาได้เนื่องจากเป็นหนึ่งในข้อตกลงที่ทางกรมควบคุมโรคจะต้องเจรจากับผู้ผลิตวัคซีนอีกครั้งหนึ่ง
- วัคซีน Moderna ซึ่งเป็นวัคซีนทางเลือกที่ประชาชนต้องเสียค่าใช้จ่ายให้เอกชนเอง ซึ่ง ครม. มีมติให้องค์การเภสัชกรรม (GPO) เป็นผู้ลงนามในสัญญาพร้อมรับข้อสังเกตจากอัยการสูงสุดเพื่อไปดำเนินการให้เหมาะสมในสัญญา
รวมทั้งเห็นชอบข้อตกลงในการรับความช่วยเหลือรับมอบวัคซีน Pfizer จากรัฐบาลสหรัฐอเมริกา