โดย ไปรษณีย์ไทย ได้ส่งต่อไปยัง บริษัท เอสซีจี แพ็กเกจจิ้ง จำกัด (มหาชน) เพื่อแปรรูปเป็นเตียงกระดาษ สำหรับรองรับผู้ป่วย COVID-19 ในโรงพยาบาลสนามทั่วประเทศ พร้อมทั้งเดินหน้า เปลี่ยนกล่อง/ซอง เป็นหน้ากากอนามัยทางการแพทย์ บรรจุรวมใน “กล่องBOXบุญ” เพื่อส่งต่อให้โรงพยาบาลทั่วประเทศ
ดร.ดนันท์ สุภัทรพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด กล่าวว่า ในช่วง เดือนพฤษภาคม 2564 ที่ผ่านมา ไปรษณีย์ไทยได้เปิดรับรวบรวมกล่องพัสดุ ซอง และลังกระดาษ จากคนไทยผ่านโครงการ “ไปรษณีย์ reBOX เปลี่ยนกล่อง/ซองไม่ใช้แล้ว เป็นสิ่งจำเป็นทางการแพทย์” และได้ส่งมอบให้กับ บริษัท เอสซีจี แพ็กเกจจิ้ง จำกัด (มหาชน) เพื่อสนับสนุนการแปรรูปเป็นเตียงกระดาษ สำหรับรองรับผู้ป่วย COVID-19 ในโรงพยาบาลสนามทั่วประเทศ โดยในเดือนพฤษภาคม ซึ่งเป็นเดือนแรกของโครงการ ได้รับการตอบรับจากคนไทยเป็นอย่างดี โดยมีกล่องพัสดุและลังกระดาษไม่ใช้แล้วกลับเข้าสู่ระบบรีไซเคิล รวมกว่า 23,500 กิโลกรัม
แต่อย่างไรก็ตาม การระบาดของเชื้อ COVID-19 ที่ยังคงดำเนินอย่างต่อเนื่อง เป็นผลให้มีความต้องการสิ่งจำเป็นทางการแพทย์ที่นอกเหนือจากเตียงสนามอีกหลายประเภท โดยเฉพาะอุปกรณ์ป้องกันที่ไม่สามารถใช้ซ้ำได้ เช่น หน้ากากอนามัย ดังนั้น โครงการไปรษณีย์ reBOX จึงยังคงมุ่งตอบสนองกับความต้องการดังกล่าว ด้วยการเพิ่มมูลค่ากล่องและลังกระดาษไม่ใช้แล้ว ให้กลายเป็นหน้ากากอนามัยทางการแพทย์ บรรจุรวมใน “กล่องBOXบุญ”
“ในช่วงการแพร่ระบาดของเชื้อ COVID-19 บุคลากรทางการแพทย์ถือเป็นด่านหน้าที่มีความสำคัญอย่างยิ่งในการรับมือกับวิกฤตครั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็นการดูแลรักษาผู้ป่วย และภารกิจสำคัญของชาติคือการฉีดวัคซีนป้องกัน COVID-19 ให้กับคนไทยทุกคน ไปรษณีย์ไทยเล็งเห็นความสำคัญถึงความปลอดภัยของบุคลากรทางการแพทย์ จึงได้ต่อยอดโครงการไปรษณีย์ reBOX โดยการเป็นศูนย์กลางในการรวบรวมกล่องพัสดุ ซอง และลังกระดาษไม่ใช้แล้ว ให้กลายเป็นหน้ากากอนามัยทางการแพทย์ บรรจุรวมใน “กล่องBOXบุญ” เพื่อกระจายไปยังโรงพยาบาลต่างๆ ให้บุคลากรทางการแพทย์ได้ใช้ประโยชน์ต่อไป
ทั้งนี้ ไปรษณีย์ไทยขอเชิญชวนคนไทย นำกล่องพัสดุ ลังกระดาษ และซองกระดาษทุกประเภท มาให้ในโครงการ ไปรษณีย์ reBOX เปลี่ยนกล่อง/ซอง เป็นสิ่งจำเป็นของโรงพยาบาล คือหน้ากากอนามัยทางการแพทย์ เพื่อส่งมอบให้แก่โรงพยาบาล ตั้งแต่วันนี้ - 31 ตุลาคม 2564 ที่ไปรษณีย์ทั่วประเทศ รวมทั้งจุดรับรวบรวมอื่นๆ เช่น กองบัญชาการกองทัพไทย กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (สำนักงานใหญ่) มูลนิธิสถาบันแวดล้อมไทย Shippop เป็นต้น” ดร.ดนันท์ฯ กล่าวสรุป