ย้อนคำพูด หนุ่มกู้ภัย เล่านาทีแรกที่เจอร่าง น้องชมพู่ เห็นแล้วหดหู่ใจมาก
ย้อนคำพูด หนุ่มกู้ภัย เล่านาทีแรกที่เจอร่าง น้องชมพู่ หลังได้รับแจ้งในวันที่ 14 พ.ค.63 ว่าพบศพน้องชมพู่ ตนเองพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่มูลนิธิฯ รวม 4 คน จึงเดินทางไปยังหมู่บ้านกกกอก สภาพศพน่าหดหู่มาก
จากกรณี ศาลจังหวัดมุกดาหาร อนุมัติออกหมายจับ ลุงพล หรือ นายไชยพล วิภา ฐานความผิด 3 ข้อหา พรากผู้เยาว์ ทอดทิ้งเด็กเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย และกระทำการใดๆ แก่ศพหรือสภาพแวดล้อม ทำให้การชันสูตรพลิกศพ หรือผลทางคดีเปลี่ยนแปลงไป
ย้อนกลับไปที่กู้ภัยเล่านาทีเจอศพ น้องชมพู่ เจ้าหน้าที่กู้ภัยชุดที่เก็บกู้ศพน้องชมพู่ คือ นายพรศักดิ์ พุฒิวรพันธ์ และนายปรียพัช กลิ่นชมแสง เป็นเจ้าหน้าที่มูลนิธิการกุศลมุกดาหาร เปิดเผยว่า ตนได้รับแจ้งในวันที่ 14 พ.ค.63 เวลา 19.00 น. ว่าพบศพน้องชมพู่ ตนเองพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่มูลนิธิฯ รวม 4 คน จึงเดินทางไปยังหมู่บ้านกกกอก ขึ้นภูเหล็กไฟ เวลา 23.30 น. และถึงจุดพบศพ เวลา 00.30 น. พบเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน ตำรวจ และเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติภูผายล ก่อนจะนำศพลงจากภูเหล็กไฟ เวลา 01.00 น. โดยการแบกศพใส่ที่บ่า ใช้เวลาลงจากภูเหล็กไฟ 30 นาที แล้วนำศพส่งโรงพยาบาลดงหลวง
นายพรศักดิ์ กล่าวว่า สภาพศพอยู่ในสภาพเปลือย เริ่มเน่าและส่งกลิ่น โดยกลิ่นโชยออกมาจากบริเวณปากของศพ ซึ่งในปากมีหนอนแมลงวันเป็นจำนวนมาก คาดว่าเสียชีวิตมาไม่ต่ำกว่า 2 วัน แต่ไม่สามารถระบุได้ว่าเสียชีวิตเพราะอะไร นอกจากนี้ ยังมีรอยขีดข่วนทั่วร่างกาย คาดว่าเป็นรอยหญ้าหรือกิ่งไม้ขีดข่วนระหว่างเดิน แต่ไม่พบบาดแผลฉกรรจ์ มีเพียงรูบุบที่สะโพก คล้ายรอยกดทับ แต่รูดังกล่าวไม่ได้ทะลุผิวหนัง
ส่วนรอยแผลพุพองบริเวณเท้า เกิดจากความร้อน เกิดขึ้นได้ 2 กรณี กรณีแรกคือเด็กอาจเดินจนเท้าพอง หรือกรณีที่ 2 การพุพองดังกล่าว สามารถเกิดขึ้นหลังจากเสียชีวิต ถ้าหากสภาพอากาศร้อน หรือแดดจัด ผิวหนังศพก็อาจเกิดการพุพองได้ ดังนั้นจึงไม่ขอฟันธง ว่าเกิดจากอะไร ส่วนอุปสรรคในการขึ้นไปเก็บศพ คือเส้นทางที่ลาดชัน มีโขดหินสูง ยากลำบากต่อการเดิน และไม่เชื่อว่าเด็ก 3 ขวบ จะเดินขึ้นได้เอง