thainewsonline

ตำรวจคู่กรณี น้องฟลุ๊ค ยอมรับแล้วขี่รถเบียดจริง แต่ปฏิเสธไม่ได้ถีบ

31 พฤษภาคม 2564
ตำรวจคู่กรณี น้องฟลุ๊ค ยอมรับแล้วขี่รถเบียดจริง แต่ปฏิเสธไม่ได้ถีบ

ตำรวจคู่กรณี น้องฟลุ๊ค หนุ่มน้อยวัย 14 ปี ดีกรีนักกีฬาฟุตซอลตัวเก่งโรงเรียน ยอมรับขี่รถสายตรวจจี้รถน้องจริง แต่ปฏิเสธไม่ได้ถีบรถเด็ก อ้างที่รถล้มเพราะเกี่ยวกัน ผบ.ช.น. เร่งสั่งการตรวจสอบข้อเท็จจริง

สืบเนื่องจากกรณีที่ทางญาติของ น้องฟลุ๊ค หรือ ด.ช.ณัฐดนัย เพชรขาว อายุ 14 ปี ดีกรีนักกีฬาฟุตซอลโรงเรียนแห่งหนึ่ง ซึ่งทางญาติระบุว่า สงสัยในเรื่องจากเสียชีวิตของน้อง เนื่องจากวันเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำให้น้องเกิดอุบัติเหตุจนถึงแก่ชีวิต โดยในอุบัติเหตุครั้งนี้ทำให้มีผู้บาดเจ็บอีก 2 คนนั่นก็คือ น้องโฮจุน และ น้องปกป้อง เพื่อนวัยเดียวกัน

อ่านข่าว - ญาติร้องทุกข์ น้องฟลุ๊ค โดนตร.มือใหม่ขี่รถตามประกบ สุดท้ายเสียชีวิตคาที่

ตำรวจคู่กรณี น้องฟลุ๊ค ยอมรับแล้วขี่รถเบียดจริง แต่ปฏิเสธไม่ได้ถีบ
 

เกี่ยวกับเรื่องนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แแกมายอมรับแล้ว ซึ่งทางเพจ Legend Thailand ได้ระบุข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า "เอาล่ะครับ ตำรวจยอมรับว่าเบียดรถน้องจริง แต่อ้างว่า...ที่รถล้มเพราะเกี่ยวกัน ในภาพกล้องวงจรปิด ตีคู่ขนาบข้างกันมาไม่ใช่เหรอครับ แล้วจะเอาส่วนไหนไปเกี่ยวกัน ...ต้องตามพิสูจน์กันต่อไปครับ #น้องมีส่วนผิดที่ไม่สวมหมวกกันน็อคเพราะเห็นว่าสนามบอลอยู่ใกล้บ้าน #แล้วน้องมีสิทธิ์ตายด้วยเหรอครับ"


ทั้งนี้ พล.ต.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น. ได้สั่งการให้ ผบก.น.1 และ ผกก.สน.ดินแดง รายงานข้อเท็จจริงในเรื่องดังกล่าว พร้อมพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องแล้ว จากการตรวจสอบเบื้องต้นทราบว่า เหตุดังกล่าวเกิดเมื่อวันที่ 24 พ.ค.2564 เวลาประมาณ 02.15 น. สถานที่เกิดเหตุ บริเวณถนนวิภาวดีขาเข้า มุ่งหน้าอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ แขวงดินแดง เขตดินแดง กรุงเทพมหานคร มีเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับบาดเจ็บ 2 นาย ส่วนผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ สีแดง - ดำ หมายเลขทะเบียน 1ขจ - 6680 กทม. ได้รับบาดเจ็บทั้ง 3 คน (ต่อมาได้เสียชีวิตที่ รพ.ราชวิถี 1 คน ทราบชื่อภายหลังคือน้องฟลุ๊ค)

ตำรวจคู่กรณี น้องฟลุ๊ค ยอมรับแล้วขี่รถเบียดจริง แต่ปฏิเสธไม่ได้ถีบ

โดย ผบช.น. ชี้แจงว่า ได้สอบถามเจ้าหน้าที่ตำรวจ รวมทั้งตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดแล้วได้ความว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ 2 นาย ได้ออกตรวจมาถึงบริเวณถนนมิตรไมตรี แล้วพบชาย 3 คน ขับขี่รถจักรยานยนต์ซ้อนสามกันมา ไม่สวมหมวกนิรภัยทั้งสามคนและเป็นเวลากลางดึก  มาตามถนนมิตรไมตรีมุ่งหน้าถนนวิภาวดีรังสิต จึงได้เข้าไปเรียกให้หยุดและส่งสัญญาญด้วยไฟฉายให้หยุดรถ แต่ผู้ขับขี่ไม่ปฏิบัติตาม 


ทั้งยังมีการเร่งครื่องยนต์ขับรถออกมาถึงปากทางแล้วเลี้ยวซ้ายไปตามถนนวิภาวดีรังสิต แล้วขับขี่รถด้วยความเร็ว เจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจได้ขับตามมาทางด้านขวาและสั่งให้หยุดรถ แต่ผู้ขับขี่รถคู่กรณีไม่ยอมหยุด แล้วเมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุรถจักรยานยนต์คู่กรณีคันดังกล่าวได้เบี่ยงออกขวาจนเบียดรถสายตรวจ และได้เกี่ยวกันล้มลงบนถนนทั้ง 2 คัน ทั้งฝั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจและกลุ่มผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ได้รับบาดเจ็บ จึงได้ช่วยกันปฐมพยาบาลและเรียกรถพยาบาลมารับ 

ตำรวจคู่กรณี น้องฟลุ๊ค ยอมรับแล้วขี่รถเบียดจริง แต่ปฏิเสธไม่ได้ถีบ
แล้วต่อมาทราบว่า 1 ในผู้ซ้อนท้าย รถจักรยานยนต์เสียชีวิตขณะรักษาตัวอยู่ที่ รพ.ราชวิถี  และเมื่อทำการตรวจค้นรถในที่เกิดเหตุแล้วพบสิ่งของผิดกฎหมายบริเวณใต้เบาะที่นั่งของรถจักรยานยนต์คู่กรณีคันดังกล่าว

อย่างไรก็ตาม  ผบช.น. กล่าวอีกว่า จากภาพข่าวและสื่อโซเชียลที่มีการพูดว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นฝ่ายถีบรถของฝั่งผู้เสียชีวิตทำให้เกิดเหตุดังกล่าวขึ้นนั้น ยืนยันว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่ได้ถีบรถของคู่กรณีแต่อย่างใด โดยมีพยานหลักฐานเป็นคลิปในขณะเกิดเหตุชัดเจน และได้รับแจ้งจาก ผกก.สน.ดินแดง ว่าจะได้เชิญตัวญาติผู้เสียชีวิต มาชี้แจงถึงข้อเท็จจริงของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นต่อไป และขอแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมาในโอกาสนี้ด้วย

ตำรวจคู่กรณี น้องฟลุ๊ค ยอมรับแล้วขี่รถเบียดจริง แต่ปฏิเสธไม่ได้ถีบ

ขอบคุณเพจ Legend Thailand
 

Thailand Web Stat