กรณีคลิปที่ทางผู้ใช้เฟซบุ๊ค Min Ny โดยกล้องหน้ารถบันทึกภาพรถพ่วง18ล้อ บรรทุกท่อเหล็กมาเต็มคันรถ มีการวางเเนวขวางบนหางพ่วง ทำให้กีดขวางการจราจรทั้ง2เลน เป็นอันตรายต่อผู้ใช้รถใช้ถนน บริเวณถนนเส้นเพชรเกษม ช่วงเนิน419ในพื้นที่ท่าแซะ จ.ชุมพร ซึ่งรถพ่วงได้ขนท่อเหล็กซึ่งเป็นระบบท่อไอน้ำ ขนาดกว้าง 7X8 เมตร จากโรงงานในพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการ ขับออกมาตั้งแต่วันที่ 22 พ.ค. 64ที่ผ่านมา ในช่วงกลางวัน มีจุดหมายปลายทางมายัง อ .สะเดา จังหวัดสงขลา ระยะทางเกือบ1พันกิโลฯ โดยไม่ได้ขออนุญาตใช้เส้นทาง
ความคืบหน้าล่าสุดนั้นทางตำรวจทางหลวง เปิดเผยว่า สามารถจับกุมรถ2คันดังกล่าวได้เเล้วพร้อมเเจ้งข้อหา ได้รับข้อความส่งมาในอินบ็อกซ์จากพลเมืองดีหลายท่าน ร้องเรียนเข้ามาเกี่ยวกับคลิปรถบรรทุก บรรทุกเหล็กแนวขวาง ขับบนถนนทางหลวงที่แชร์กันบนโซเชี่ยลมีเดีย ขณะนี้ ทางเราไม่ได้นิ่งนอนใจแต่อย่างใด ได้เร่งสืบหาตัวผู้กระทำความผิดจนพบแล้วนำตัวส่ง สภ.สะเดาเพื่อดำเนินคดีต่อไป
มีการจับกุมดำเนินคดีมี 3 ข้อหาความผิดดังนี้ ....
1. ขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยหรือความเดือดร้อนของผู้อื่น พรบ.จราจรทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 43, 160 (จำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับตั้งตั้งแต่ 2,000-10,000 บาท) ฟ้องศาล
2. ใช้รถบรรทุกสิ่งของไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กำหนดในกฎกระทรวง ( บรรทุกสิ่งของส่วนกลางเกินส่วนกว้างของรถ ) พรบ.จราจรทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 18 , 150 (ปรับไม่เกิน 500 บาท)
3. เป็นผู้ขับรถไม่ปฏิบัติตามกฎหมายว่าด้วยการจราจรทางบก (ใช้รถบรรทุกสิ่งของไม่เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กำหนดในกฎกระทรวง บรรทุกสิ่งของส่วนกลางเกินส่วนกว้างของรถ) พรบ.การขนส่งทางบก พ.ศ. 2522 มาตรา 111 ,161 (ปรับไม่เกิน 5,000 บาท)
ข้อหาที่ 1 ส่งฟ้องศาล
ข้อหาที่ 2,3 ปรับในชั้น พนักงานสอบสวนได้
ด้านคนขับรถพ่วงคือ นาย สมพร จำปาทาสี อายุ 32 ปี และนายประยูร ขันงูเหลือม อายุ41 ปี คนขับรถบรรทุกคันที่นำหน้า หลังจากที่อุปกรณ์ที่บรรทุกมาไปส่งที่ไซต์งานก่อสร้างในพื้นที่ อ.สะเดา จ.สงขลา เสร็จเรียบร้อย
จากการสอบสวน นายสมพร คนขับรถบรรทุกคันหน้าที่ปรากฏในคลิป เล่าว่าตอนนั้นกำลังขับรถบรรทุกอุปกรณ์ระบบท่อไอน้ำจาก จ.สมุทรปราการ เพื่อไปส่งที่โรงงานใน อ.สะเดา ซึ่งอุปกรณ์นี้จำเป็นต้องวางขวางตัวรถอย่างเดียววางตามความยาวไม่ได้
โดยขับออกมาตั้งแต่วันที่22พ.ค.64 ในช่วงกลางวันเพราะจะปลอดภัยกว่าในช่วงกลางคืนซึ่งสามารถมองเห็นเส้นทางได้ว่ามีอะไรขวางบ้าง และจริงๆแล้วจะมีทั้งรถนำหน้าและรถปิดท้ายด้วย รวมทั้งจะมีคนคอยบอกทางตลอดว่าข้างหน้ามีอะไรบ้างและมีรถตามหลังจะแซงหรือไม่
แต่ช่วงที่มีคนถ่ายคลิปเป็นจังหวะที่มีรถเก๋งวิ่งออกจากริมถนนจึงต้องตีรถขึ้นเลนขวาเพื่อแซงจึงทำให้ดูเหมือนว่าขวางทางและที่แซงรถเก๋งก็ดูแล้วว่าอุปกรณ์ที่บรรทุกมาอยู่สูงไม่โดนรถเก๋งแน่ กระทั่งวิ่งมาถึงที่อ.สะเดา จ.สงขลา และนำของไปส่งที่ไซต์งานก่อสร้างอย่างปลอดภัย