ลูกบ้านคอนโด เคยออกกฎเหล็กคนป่วยโควิด ห้ามกลับมาอาศัย สุดท้ายขอเปลี่ยนกฎ

ด้วยสถานการณ์ของโรคระบาดไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือ โควิด 19 ทำให้หลายๆ คนยิ่งผวา และยิ่งเมื่อได้ยินว่ามีคนใกล้ๆ ตัวติดโควิดยิ่งทำให้หลายคนกังวลเป็นพิเศษ ซึ่งก่อนหน้านี้ทางด้านคุรหมอได้ออกมาเผยแล้วว่า คนที่ติดเชื้อโควิดแล้วหาย ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด ฉะนั้นให้ทุกคนใช้ชีวิตอยู่ร่วมกันได้ตามปกติ เพียงแค่ต้องเข้มงวดเรื่องมาตรการ

เกี่ยวกับเรื่องนี้จะเรียกว่าเป็นกรรมตามสนองก็ย่อมได้ เมื่อเกิดเหตุการณ์ลูกบ้านในคอนโดแห่งหนึ่งได้ชักชวนเพื่อนบ้านออกกฎเข้มว่า ห้ามคนเคยติดโควิด 19 เข้าคอนโด แม้จะรักษาหายแล้วแต่ก็ต้องมีเอกสารยืนยันผลตรวจที่เป็นลบ รวมทั้งต้องไปกักตัวที่อื่น 7 วัน จึงจะกลับเข้าคอนโดได้ ซึ่งแม้กรรมการรายนี้จะคัดค้านว่าคอนโดไม่มีอำนาจเช่นนั้น แต่ลูกบ้านยืนยันว่าจะใช้กฎแบบนี้

แต่กลับเกิดเรื่องไม่คาดฝันขึ้น เมื่อเกิดเหตุการณ์ชวนสับสนขึ้น เมื่อหนึ่งในลูกบ้านที่ผลักดันกฎดังกล่าว ออกมาไกล่เกลี่ยให้กรรมการช่วยผลักดันเปลี่ยนกฎ เนื่องจากลูกสาวติดโควิดยังรักษาไม่หาย ส่งผลให้ถูกกีดกันไม่ให้เข้าคอนโด ซึ่งครั้งนี้ลูกบ้านอ้างว่า เวลาเปลี่ยน นโยบายก็ต้องเปลี่ยน โควิดติดข้ามห้องไม่ได้ วัคซีนก็หาไม่ยาก จึงน่าจะปรับกฎไม่ต้องเข้มได้หรือไม่

นอกจากนี้ทางกรรมการคอนโด ยืนยันว่า ลูกบ้านควรจะปฏิบัติตามกฎเดิมที่เคยเสนอมาว่าเอกสารยืนยันต้องครบจึงจะกลับเข้าคอนโดได้ ยอมรับว่าครั้งนั้นเคยคัดค้านเพราะเห็นว่าเอกสารตรวจต่างๆ ไม่ได้หาง่าย และการไปกักตัวที่โรงแรมก็ไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ตอนนั้นลูกบ้านส่วนใหญ่ไม่ฟังเอง บอกว่าเป็นเรื่องขอขาดบาดตาย แต่ทำไมจะมาเปลี่ยนช่วงนี้ที่โควิดมีสายพันธุ์อื่นๆ เพิ่มมาทั้ง สายพันธุ์อินเดีย แอฟริกา หากไม่ปฏิบัติตามกฎเดิมเกรงว่าลูกบ้านท่านอื่นๆ จะไม่ยินดีแน่นอน

ขณะที่ทางฝ่ายลูกบ้านอ้างว่า กรรมการควรเป็นคนมีจิตเมตตา ลูกบ้านมีอายุมากแล้ว รายได้ก็ไม่มาก จะไปเสียค่าเปิดโรงแรมกักตัวก็มองว่าเกินกว่าเหตุ ขอว่าต้องอยู่ในสังคมด้วยความเข้าใจและประณีประนอม ซึ่งต่อมาทางกรรมการคอนโดท่านนี้แนะนำให้ลูกบ้านไปปรึกษากับลูกบ้านอื่น ๆ เพื่อหาข้อสรุปมาเหมือนที่เคยทำรอบที่แล้ว หากลูกบ้านคนอื่นเห็นใจทางกรรมการก็ยินดีจะปฏิบัติตามนั้น

ทั้งนี้หลังเรื่องราวดังกล่าวถูกเผยแพร่ออกไป ปรากฏว่ากลายเป็นที่ชื่นชอบในทวิตเตอร์อย่างมาก โดยถือเป็นอุทาหรณ์ว่า หากเลือกที่จะเห็นอกเห็นใจผู้อื่นตั้งแต่แรก ก็คงไม่ต้องมาทุกข์หนักแบบนี้ หรือจะมองว่าเรื่องนี้เหมือนกรรมตามสนองก็เป็นได้เช่นกัน

อ่านโพสต์ต้นฉบับ