เรียกว่าเอาฮือฮาและถูกใจปชช.อย่างยิ่ง หลังจากที่ทางผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานีในฐานะผู้กำกับการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินโดยความเห็นชอบของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดสุราษฎร์ธานีตามมติที่ประชุมครั้งที่ 7/2564 เมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม 2564 จึงมีคำสั่งห้ามประชาชนรวมกลุ่มตั้งแต่สองคนขึ้นไป ร่วมวงสังสรรค์ดื่มสุราหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในเคหสถานที่พำนักหรือสถานที่อื่นใดในการจัดกิจกรรมหรืองานต่างๆ ห้ามมีให้มีการจัดเลี้ยงอาหารหรือมีการร่วมวงรับประทานอาหารเว้นแต่เป็นอาหารบรรจุกล่องด้านร้านจำหน่ายอาหารหรือเครื่องดื่มให้จำหน่ายอาหารหรือเครื่องดื่มและบริโภคภายในร้านได้ไม่เกินเวลา 21.00 นาฬิกา
โดยผู้ให้บริการต้องจัดให้มีการคัดกรองอุณหภูมิร่างกายก่อนเข้าร้านมีเจลหรือแอลกอฮอล์ล้างมือการกำหนดจุดยืนรอคิวชำระเงินโดยให้กำหนดระยะห่างอย่างน้อยคนละหนึ่งเมตรทำความสะอาดโดยการเช็ดทำความสะอาดพื้นผิวสัมผัสของสถานที่ก่อนเปิดให้บริการและทำความสะอาดอย่างต่อเนื่อง
อีกทั้งให้กำจัดขยะมูลฝอยทุกวันให้ผู้ประกอบการลูกจ้างและผู้ใช้บริการสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าด้วยทุกครั้งและให้ควบคุมจำนวนผู้ใช้บริการมิให้แออัดและลดเวลาในการทำกิจกรรมให้สั้นลงหรือเท่าที่จำเป็นโดยถือหลักการหลีกเสี่ยงการติดต่อสัมผัสระหว่างกันส่วนควบคุมกิจกรรมทางสังคมให้งดหรือเลื่อนงานมงคลได้แก่งานกฐินงานผ้าป่างานประจำปีงานหมั้นงานมงศลสมรสงานบวชงานขึ้นบ้านใหม่งานตามประเพณีต่างๆหรืองานอื่นใดในทำนองเดียวกันนี้เว้นแต่มีเหตุจำเป็นอย่างยิ่งต้องได้รับอนุญาตก่อนมีการจัดกิจกรรมและต้องมีผู้ร่วมกิจกรรมไม่เกิน 20 คนโดยต้องปฏิบัติตามมาตรการทางสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด
และให้มีการควบคุมตรวจสอบโดยเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อหรือบุคคลที่นายอำเภอมอบหมายการยื่นคำร้องขออนุญาตให้ยื่นตามแบบคำขออนุญาตแนบท้ายคำสั่งฉบับนี้ต่อนายอำเภอท้องที่หรือผู้ที่นายอำเภอมอบหมายทางด้านงานศพให้มีผู้ร่วมงานใด้เท่าที่จำเป็นและเหมาะสมกับพื้นที่โดยรักษาระยะห่างทางสังคมตามมาตรการทางสาธารณสุขอย่างเคร่งครัดทั้งนี้ต้องมีผู้ร่วมงานไม่เกิน 50 คนและให้แจ้งการจัดงานต่อบุคคลที่นายอำเภอมอบหมายหรือเจ้าพนักงานควบคุมโรคติตต่อเพื่อให้มีการควบคุมและตรวจสอบให้เป็นไปตามมาตรการ
ส่วนผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งนี้เป็นความผิดตามมาตรา 18 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินพ.ศ.2548 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสองปีหรือปรับไม่เกินสี่หมื่นบาทหรือทั้งจำทั้งปรับและอาจมีความผิดตามมาตรา 52 แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อพ.ศ.2558 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปีหรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาทหรือทั้งจำทั้งปรับทั้งนี้ตั้งแต่วันที่ 4 พฤษภาคม 2564 เป็นต้นไปจนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลง