กระทรวงสาธารณสุข เชิญ พศ.ทำความเข้าใจ หลังวัดงดสวด ส่งศพขึ้นเมรุเผาทันที

30 เมษายน 2564

นพ.ทวี โชติพิทยสุนนท์ กล่าวถึงกรณีพระสงฆ์สวมชุด PPE ในการสวดฌาปนกิจศพ ว่า ไม่มีความจำเป็นและไม่สมเหตุสมผล เพราะการบรรจุศพลงใส่โลง ถ้าเป็นศพที่เสียชีวิตจากโควิดในโรงพยาบาล มีการราดน้ำยาฆ่าเชื้อและนำสำลีชุบน้ำยาฆ่าเชื้ออุดทางรูทวาร และบรรจุใส่ซิปล็อกถึง 3 ชั้น

วันนี้ (30 เม.ย.2564) นพ.ทวี โชติพิทยสุนนท์ ที่ปรึกษากรมควบคุมโรคและกรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวถึงกรณีพระสงฆ์สวมชุด PPE ในการสวดฌาปนกิจศพ ว่า ไม่มีความจำเป็นและไม่สมเหตุสมผล เพราะการบรรจุศพลงใส่โลง ถ้าเป็นศพที่เสียชีวิตจากโควิดในโรงพยาบาล มีการราดน้ำยาฆ่าเชื้อและนำสำลีชุบน้ำยาฆ่าเชื้ออุดทางรูทวาร และบรรจุใส่ซิปล็อกถึง 3 ชั้น ทุกชั้นต้องราดน้ำยาฆ่าเชื้อ จากนั้นบรรจุโลง จึงเป็นเรื่องยากที่เชื้อจะทะลุถุง 3 ชั้น ออกมานอกโลงได้ 

 


ส่วนที่ผู้เสียชีวิตได้รับเชื้อกลายพันธุ์ สายพันธุ์อังกฤษที่มีความรุนแรงนั้น ต้องทำความเข้าใจเชื้อไม่รุนแรงจะเสียชีวิตได้อย่างไร และก็เป็นไปไม่ได้ที่เชื้อจะทะลุถุงออกมา ขอเพียงอย่างเดียว ญาติและคนใกล้ชิดอย่าเปิดถุงซิปออกเท่านั้น การสวดอภิธรรมศพ หรือทำบุญให้ผู้ตาย ยังทำได้ตามปกติ และไม่เห็นด้วยหากจะไม่มีพิธีในการทำศพเลยและนำศพยกขึ้นเมรุเผาทันที ทั้งนี้ เพื่อให้เวลาญาติทำใจ เพียงแต่อาจลดขั้นตอนในการสวดศพจาก 3 วัน เหลือ1 วันได้

นพ.ทวี กล่าวย้ำว่า การที่ไม่สวดศพเลยและนำศพขึ้นเมรุทันทีหลังเสียชีวิต ออกจะไม่สมเหตุสมผล หรือเป็นไปตามหลักวิทยาศาสตร์เพราะเชื้ออยู่กับผู้ตาย อยู่ภายในน้ำเหลือง ไม่สามารถออกมาแพร่ได้ทางอากาศ ทั้งนี้ เตรียมเชิญสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) มาทำความเข้าใจในเรื่องนี้ เพื่อให้หลักศาสนากับทางการแพทย์สอดคล้องและเป็นไปในทิศทางเดียวกัน เพื่อความเข้าใจที่ถูกต้อง เพราะเหตุการณ์เช่นนี้เคยเกิดขึ้นแล้วเมื่อโควิดระลอกแรก

ทั้งนี้ ขอย้ำว่า ศพไม่ไอ ไม่สามารถแพร่เชื้อได้ ส่วนกรณีการเรียกเก็บเงินค่าถุงซิปล็อกที่แพงขึ้นนับหลายหมื่นบาท เรื่องนี้จะต้องมีการตรวจสอบ อาจเป็นความเข้าใจผิด เพราะปกติอุปกรณ์เกี่ยวกับการป้องกันโรค ทางโรงพยาบาลจะมีการเตรียมให้ และในการจัดการศพที่เสียชีวิตจากโควิด จะไม่มีการฉีดฟอร์มาลีน ทำให้แทบไม่มีค่าใช้จ่ายอื่นๆ