จากกรณีเชื้อโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ 2019 หรือ โควิด 19 (COVID - 19) ที่ตอนนี้แพร่ระบาดอย่างหนักอีกระลอก ทำเอาประเทศไทยปั่นป่วนอย่างหนัก ซึ่งจากการแพร่ระบาดในรอบนี้ ทำให้หลายพื้นที่ได้ประกาศแจ้งถึงบุคลากรและทรัพยากรที่มีไม่เพียงพอในการรองรับผู้ป่วยที่เพิ่มมากขึ้นทุกวัน
ล่าสุด เพจ โรงพยาบาลนครพิงค์ ได้โพสต์ระบุข้อความว่า งานซักฟอก อีกหนึ่งทีมที่อยู่เบื้องหลังการดูแลผู้ป่วยโควิด การให้การดูแลผู้ป่วยโควิดในแต่ละวัน มีผ้าที่ปนเปื้อนเชื้อ หรือผ้าที่สัมผัสกับผู้ป่วยเป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นชุดของผู้ป่วย ชุดของบุคลากรทางการแพทย์ ผ้าปูที่นอน ผ้าห่ม ผ้าเช็ดตัว
หน่วยซักฟอกรพ.นครพิงค์ รับหน้าที่ในการดูแลผ้าปนเปื้อนเชื้อของทั้งภายในรพ.นครพิงค์เอง และ ผ้าบางส่วนจากรพ.สนาม (ร่วมกับหน่วยซักฟอกของรพ.มหาราชนครเชียงใหม่) โดยแต่ละวันมีผ้าจากรพ.สนาม ที่มาทำความสะอาดที่รพ.นครพิงค์ประมาณ 250-350 กิโลกรัม กระบวนการขั้นตอนต่างๆเป็นไปตามมาตรฐานขององค์การอนามัยโลก (WHO)
ซึ่งการนำผ้าติดเชื้อเหล่านี้มาทำความสะอาดต้องมีขั้นตอนที่จำเพาะเจาะจงและระมัดระวังเป็นพิเศษ ตั้งแต่ขั้นตอนการเก็บผ้า ที่ผู้จัดเก็บต้องใส่ชุดป้องกันส่วนบุคคล (PPE) จัดเก็บลงในถุงใส่ผ้าที่ละลายน้ำได้ 3 ชั้น (เป็นถุงที่ออกแบบมาให้ละลายน้ำได้ ใช้ในกรณีการซักล้างผ้าที่ปนเปื้อนเชื้อหรือสารเคมี เพื่อให้ปลอดภัยแก่ผู้ทำงานโดยไม่มีผลกระทบต่อผ้าและสิ่งแวดล้อม) พ่นแอลกอฮอล์ ในทุกขั้นตอน ใส่ลงในถุงขยะสีแดง แล้วใส่ลงในถัง ปิดฝาถังด้วยตัวล็อค หรือซีลด้วยเทปกาว แล้วจึงนำส่งหน่วยซักฟอก
หน่วยซักฟอกจะนำผ้าในถุงละลายน้ำออกจากถุงขยะแดง แล้วนำลงเครื่องซักทั้งถุงโดยไม่เปิดถุง ซักด้วยน้ำร้อน 60-90 องศา (ถุงจะละลายในน้ำร้อน) แล้วจึงนำมาตากแดด และพับให้เรียบร้อยก่อนส่งผ้ากลับมาใช้ใหม่
ทั้งนี้ การดูแลผู้ป่วยโควิดนั้น ต้องอาศัยความร่วมมือของทีมงานต่างๆทั้งนักรบแนวหน้าและทีมสนับสนุนแนวหลัง ที่ทุกฝ่ายล้วนเป็นส่วนสำคัญในการต่อสู้กับภารกิจในครั้งนี้ทั้งสิ้น