ฉาย บุนนาค ย้ำจุดยืนหลัง "ศักดิ์สยาม" ฟ้องเนชั่น ลั่น ไม่ย่อท้อต่ออิทธิพลใด

23 เมษายน 2564
6

ฉาย บุนนาค ย้ำจุดยืนหลัง "ศักดิ์สยาม" ฟ้องเนชั่น ลั่น นี่เข้าข่ายที่เรียกว่าฟ้องปิดปาก ซึ่งในฐานะประธานบริษัทเนชั่นทีวี ตนจะ เดินหน้านำเสนอความจริงต่อไปและไม่ย่อท้อต่ออำนาจหรืออิทธิพลใด

จากกรณี นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคมเลขาธิการพรรคภูมิใจไทยได้แจ้งความร้องทุกข์ต่อตำรวจ สภ.บุรีรัมย์ว่าทางเนชั่นทีวีได้หมิ่นประมาทกรณีเสนอข่าวเปิดไทม์ไลน์เที่ยวสถานบันเทิงย่านทองหล่อนั้น ล่าสุด "ฉาย บุนนาค"  ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เนชั่น มัลติมีเดีย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว โดยระบุข้อความดังนี้

 


ได้รับทราบจากข่าวและเอกสารว่า คุณศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เลขาธิการพรรคภูมิใจไทยได้แจ้งความร้องทุกข์ต่อตำรวจ สภ.บุรีรัมย์ ว่า "เนชั่นทีวี" หมิ่นประมาท กรณีเสนอข่าวสถานบันเทิงย่านทองหล่อ และกรณีการเปิดเผยไทม์ไลน์ของท่าน

โดยแจ้งความเอาผิดกับบริษัท + ประธาน เนชั่น ทีวี (ซึ่งหมายถึงผม) และผู้ประกาศข่าวอีก 2 ท่าน

ผมจึงใคร่ทำความเข้าใจดังนี้

1. ตามปกติองค์กรสื่อที่เสนอข่าวสาร ย่อมมีผลกระทบต่อบุคคล องค์กรใดๆ ได้เสมอ ไม่ว่าบวกหรือลบ ดังนั้นเรื่องคดีหมิ่นประมาท องค์กรสื่อ หลายๆ องค์กรที่ทำหน้าที่เยี่ยงมืออาชีพ ย่อมต้องเคยประสบ... ผู้ที่คิดว่าตัวเองได้รับผลกระทบจากการนำเสนอข่าว ก็มีสิทธิ์อันชอบที่จะฟ้องหรือร้องทุกข์ เป็นตามปกติเช่นเดียวกัน

หลังจากนั้นก็ต้องพิสูจน์กันในกระบวนการยุติธรรมว่าการนำเสนอข่าว กับการแจ้งความดำเนินคดี เป็นไปด้วยความสุจริตหรือไม่ ? และใครคือผู้ที่ได้ประโยชน์ ? ประเทศชาติ ? ประชาชน ? องค์กรสื่อที่นำเสนอข่าวนั้น ? หรือ ตัวผู้ตกเป็นข่าว ?

2. ในฐานะประธานเนชั่นทีวี ผมทำหน้าที่บริหารภาพรวม และธุรกิจในองค์กร เพื่อให้องค์กรมีความมั่นคงทั้งต่อพนักงานและผู้ถือหุ้น ภายใต้การทำหน้าที่เยี่ยงมืออาชีพ ตามอุดมการณ์สื่อ แม้ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการบริหาร "เนื้อหา" แต่อย่างใด แต่ผมไม่มีทางปฏิเสธความรับผิดชอบที่ปรากฏ

แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นคือ ทั้งนักการเมืองและบุคคลสาธารณะทั้งหลายมักใช้วิธีการ "ฟ้องปิดปาก" หรือ "SLAPP" ซึ่งย่อมาจาก Strategic Lawsuit Against Public Participation ที่แปลได้ว่า "การดำเนินคดีเชิงยุทธศาสตร์เพื่อระงับการมีส่วนร่วมของสาธารณชน"

ดังนั้นการฟ้องคดีลักษณะนี้ เป็นไปโดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อให้เสียงแห่งสื่อมวลชนที่บริสุทธิ์และการเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นจริงต่อสาธารณะอ่อนแรงและเงียบลงไป

ดังนั้นโดยสรุป "SLAPP" (แสลป) ก็คือการตบปากคนด้วยกฎหมาย เมื่อผู้มีอำนาจไม่อยากจะฟัง... แปลให้ง่ายๆ ก็คือการฟ้องให้หุบปาก หรือ ที่นิยามว่า "การปิดแผ่นฟ้าด้วยฝ่ามือ" หรือเพื่อและเพื่อขอเจรจา

ในทางสาธารณะ "SLAPP" นี้คือ "การฟ้องคนหรือกลุ่มคนที่พูดหรือแสดงความคิดเห็นในประเด็นอันเป็นประโยชน์สาธารณะ โดยใช้กระบวนการทางศาลขัดขวางคำพูดหรือการกระทำของบุคคลเหล่านั้นไม่ให้ราบรื่น" ซึ่งนี้จะได้ผลเป็นทั้งการข่มขวัญ ผลาญเงินทอง ผลาญกำลังและเวลาของบุคคลเหล่านั้นไม่ให้เหลือมาใช้กับการถกเถียงสาธารณะต่อไปได้

และที่ร้ายที่สุดก็คือเป็นการ "เชือดไก่" ไม่ให้คนอื่นนึกอยากจะมีปากมีเสียงในประเด็นนั้นๆ หรือแม้แต่ในประเด็นประโยชน์สาธารณะอื่นๆ อีก

3. ผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นบุคคลสาธารณะ ต้องสามารถถูกตรวจสอบได้ทั้งเรื่องการทำงานและพฤติกรรมส่วนตัวที่ส่งผลกระทบต่อส่วนรวม ขณะเดียวกันบุคคลสาธารณะผู้นั้นก็มีสิทธิ์ที่จะใช้สิทธิ์ตามกฎหมายในการตรวจสอบการทำงานของสื่อ แต่ไม่มีความชอบธรรมที่จะใช้สิทธิ์ดังกล่าวเพื่อให้สื่อยุติการตรวจสอบตน

สุดท้ายนี้ ในฐานประธานบริษัท... "เนชั่นทีวี" จะเดินหน้าเป็นปากเป็นเสียงให้กับผู้คนในสังคมในสิ่งที่ถูกต้องต่อไป โดยไม่ย่อท้อต่ออำนาจและอิทธิพลใดๆ

เครือเนชั่น ยังยืนหยัดในจุดยืนที่มั่นคงต่อการทำหน้าที่สื่อมวลชน เพื่อนำข้อมูลข้อเท็จจริงไปสู่ประชาชนให้มากที่สุด ภายใต้สิทธิเสรีภาพที่มีตามรัฐธรรมนูญ...

สื่อเป็นคนกลางระหว่าง นักการเมือง กับ ประชาชน หากตัดสื่อตรงกลางออกไป ข่าวสารต่างๆจะไม่ไปถึงประชาชน ดังนั้นในทุกยุคทุกสมัย นักการเมืองมักจะใช้วิธีการแบบนี้

การกลั่นแกล้งและใช้มาตรการดังกล่าวมีจุดประสงค์เพื่อไม่ให้ประชาชนได้รับรู้ข้อมูลข่าวสารเชิงลึกและตรงไปตรงมา... แต่ไม่มีทางสำเร็จ เหมือนกับการเอาฝ่ามือไปปิดฟ้า ไม่มีทางจะปิดได้มิด

วันนี้... องค์กรแห่งนี้เดินทางมายาวไกลถึง 50 ปี เราเป็นสถาบันสื่อมืออาชีพ นักการเมืองมาแล้วก็จากไป แต่สื่อที่เป็นสถาบันจะต้องอยู่คู่กับสังคมไทยเพื่อประเทศชาติสืบไป

ฉาย บุนนาค 

 

ขอบคุณ ฉาย บุนนาค