นักศึกษาสาวติดโควิด กทม. ผู้ปกครองให้นั่งรถบัส กลับมาตรวจที่ขอบแก่น
สาวนักศึกษาติดเชื้อโควิดที่ กทม. ผู้ปกครองบอกให้นั่งรถโดยสารกลับมาตรวจเชื้อที่ขอนแก่นและผลตรวจยืนยันว่าติดเชื้อโซเชียลฯรู้วิจารณ์สนั่น ทำอย่างนี้เหมือนทำให้มีกลุ่มเสี่ยงเพิ่มขึ้นอีก
เมื่อวันที่ 14 เม.ย. 64 โลกออนไลน์ได้มีการแชร์ข้อมูลผู้ติดเชื้อโควิด เป็นนักศึกษาสาวชาวขอนแก่นที่โพสต์ข้อความและไทม์ไลน์เกี่ยวกับการติดเชื้อโควิด-19ของตนเองผ่านไอจีส่วนตัว โดยข้อความระบุว่า...
“ไทม์ไลน์เราตั้งแต่วันที่ 1-5 คือสุ่มเสี่ยงมาก จนวันที่ 6-7 เรามีเริ่มมีอาการปวดหัวมาก+ตัวร้อน วันที่ 8 อาการดีขึ้น วันที่ 9 กลับมาปวดหัวหนักอีกรอบ วันที่ 10- ปัจจุบันไม่มีอาการปวดหัวแล้ว หายปวดหัว หลังจากคืนวันที่ 9 เพราะเข้านอนเร็ว+กินยา+กินน้ำ เยอะๆ แต่อาการที่ตามมาหลังจากนี้คือ ได้กลิ่นอ่อนๆ อ่อนมากๆๆถ้าไม่เอาเข้าใกล้จมูกแทบจะไม่ได้กลิ่น ส่วนรสอาหารแรกๆ ยังรับรสอยู่
พอวันนี้ (วันที่ 12) ตื่นมาลิ้นรับรสยาสีฟันน้อยมาก ได้กลิ่นน้อยกว่าเดิม มากๆ วันนี้เลยกำลังเดินทางไปตรวจที่ จ.ขอนแก่น เพราะทางบ้านให้ไป หากพบเชื้อจริงก็จะรักษาตัวที่ขอนแก่นเลย ในส่วนของไทม์ไลน์จะมาลงให้หลังจากรู้ผลตรวจแล้วนะทุกคน ขอโทษที่ทำให้คนรอบข้างได้รับผลกระทบหรือเดือดร้อนจากการกระทำของเราด้วยจริงๆ นะ ขอโทษจากใจเลย”
ต่อมาเธอยังได้โพสต์ข้อความยืนยันว่าตัวเองติดเชื้อโควิด พร้อมกับแจงรายละเอียดไทม์ไลน์ตนเอง
วันที่ 1 เม.ย. 64 เวลา 13.30-19.00 น. ไปทำงานที่ มศว, เวลา 00.00-02.00 ไปร้าน circus bar เดอะสตรีท รัชดาฯ เดินทางกลับโดยแท็กซี่
วันที่ 2 เม.ย. 64 พักผ่อนที่แฟลตตำรวจลือชา
วันที่ 3 เม.ย. 64 เวลา 13.30-14.50 น. ไป มศว เดินทางโดย grab win ขากลับเดินทางโดย bts อโศก-สนามเป้า, เวลา 15.45-16.10 น. ทำฟันที่คลินิก smile seasons พหลโยธิน, เวลา 17.00-01.30 น. (เดินทางโดย bts สนามเป้า-มหาวิทยาลัยเกษตรฯ) ไปร้าน superhit และเดินทางกลับที่พักโดยแท็กซี่
วันที่ 4 เม.ย. 64 ไปทำงานที่ มศว ขาไปเดินทางโดย grab win ขากลับเดินทางโดย bts อโศก-สนามเป้า
ทั้งนี้หลังจากข้อมูลของผู้ติดเชื้อรายนี้ถูกเผยแพร่ออกไป ชาวเน็ตได้เข้ามาวิพากษ์ วิจารณ์พร้อมทั้งตำหนิผู้ปกครองของนักศึกษาสาวรายนี้ ทั้งที่ทราบว่าลูกอยู่ในกลุ่มเสี่ยงแต่ไม่ยอมให้เข้าตรวจในโรงพยาบาลที่กรุงเทพฯ ยังดึงดันให้ลูกกลับมาตรวจหาเชื้อที่ จ.ขอนแก่นแทน แถมยังให้นั่งมาในรถบัส จนผู้โดยสารท่านอื่นเข้าข่ายมีความเสี่ยงสูงไปด้วย โดยทางทีมสอบสวนโรคได้ลงพื้นที่ตามไทม์ไลน์ของผู้ป่วยรายนี้แล้ว เพื่อคัดกรองผู้ที่มีความเสี่ยงสัมผัสสูง โดยเฉพาะผู้โดยสารที่เดินทางมากับรถโดยสารปรับอากาศคันนี้ด้วย
