ตำรวจยืนยันทำตามยุทธวิธีสยบหนุ่มคลั่ง ไม่ได้ใช้ความรุนแรงจนสิ้นใจ

สืบเนื่องจากกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าจับกุมสยบชายคลุ้มคลั่งหลังจากได้รับแจ้งจากทางครอบครัวของเขาให้มาช่วยเกลี้ยกล่อม ทว่ากลับเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน เนื่องจากเจ้าหน้าที่ได้เข้าจับกุมจนกระทั่งหนุ่มคลั่งคนดังกล่าวสิ้นใจ

อ่านข่าว - ไม่คิดว่าจะเป็นแบบนี้!เมียร่ำไห้แจ้งตำรวจมสยบผัวคลั่ง แต่จนท.ดันใช้เข่ากดคอจนสิ้นใจ แม่ไม่ยอม ยืนยันจะต่อสู้หาความยุติธรรมลูกชาย

เกี่ยวกับเรื่องนี้ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แถลงว่า วันเกิดเหตุจากที่ได้ไปจับกุมหนุ่มคลั่งรายดังกล่าว เขาได้พยายามต่อสู้ขัดขืน ก่อนที่จะกระชากกุญแจมือที่เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ใส่ไว้จนขาด 

ทางเจ้าหน้าที่จึงต้องขอกำลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ และหน่วยกู้ภัยอ่างทองกว่า 10 คน ช่วยกันจับตัวและใช้เชือกมัดกับบอร์ดไว้ ซึ่งชายคนดังกล่าวก็ยังคงร้องโวยวาย และพยายามต่อสู้จนเชือกที่ใช้มัดขาดถึง 2 ครั้ง

กระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจ และเจ้าหน้าที่กู้ภัย ก็สามารถควบคุมตัวไว้ได้ก่อนนำตัวส่งโรงพยาบาลอ่างทองเพื่อสงบสติอารมณ์ แต่มาทราบในภายหลังว่า หลังจากที่หนุ่มคลั่งถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล เขาได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา 

โดยทราบชื่อภายหลัง นายอรรถสิทธิ์ แจ้งกระจ่าง อายุ 30 ปี อีกทั้งเบื้องต้นยังพบสารแปลกปลอมผิดกฎหมายในร่างกายก่อนส่งร่างไปชันสูตรเพิ่มเติมที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ รพ.ตำรวจเพื่อหาสาเหตุการเสียชีวิตที่แน่ชัดอีกหน

นอกจากนี้ทางด้านเพื่อนบ้านยังได้เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า ช่วงขณะเกิดเหตุนายอรรถสิทธิ์ ผู้เสียชีวิตได้ออกมาโวยวาย และอยู่ในอาการคลั่งที่หน้าบ้านของเพื่อนบ้าน กระทั่งถูกจับกุมที่บ้านหลังดังกล่าว

ก่อนหน้าจะถูกจับกุม นายอรรถสิทธิ์ ผู้เสียชีวิตได้มาที่หน้าบ้าน ในสภาพถอดเสื้อ ใส่แค่กางเกงสีดำ แต่ตอนนั้นไม่ได้อยู่ในอาการคลั่ง มาขอความช่วยเหลือบอกว่า “โดนแม่ไล่ตี” เมื่อมาถึงหน้าบ้านได้นั่งลงขัดสมาธิอยู่ที่รั้วหน้าบ้าน 

พร้อมกับขอสายยางสีน้ำเงิน และเปิดน้ำที่ก๊อกราดตั้งแต่ศีรษะ นั่งเล่นเหมือนเด็ก พร้อมกับบ่นว่า “ร้อนๆ ข้างในร้อนไปหมดแล้ว ขอน้ำเย็นๆ หน่อยได้ไหมครับ”

เมื่อตนไปหยิบน้ำเย็นมาให้ก็สังเกตเห็นว่า ลูกของนายอรรถสิทธิ์ ผู้เสียชีวิตได้วิ่งออกมา พร้อมกับบอกว่า พ่อโดนแม่ตี จึงได้เชื่อมโยงเหตุการณ์ได้ว่าทั้งคุ่น่าจะทะเลาะกัน และแม่ของนายอรรถสิทธิ์ ผู้เสียชีวิตได้ทำการตีสั่งสอน

กระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาถึงจึงได้ทำการจับกุมดังกล่าว แต่ด้วยความที่ผู้เสียชีวิตแรงเยอะ จึงได้กระชากกุญแจมือจนขาด ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องเรียกกำลังเสริมและนำเชือกมามัดถึง 2 ครั้งกระทั่งจับส่งโรงพยาบาลได้ในที่สุด

อย่างไรก็ตาม พ.ต.อ.วิชัยนาวิน อนันต์ ผกก.สภ.เมืองอ่างทอง ได้ยืนยันว่าตำรวจไม่ใช้ความรุนแรงในการควบคุมตัวผู้ที่เกิดอาการคลั่ง แต่ผู้เสียชีวิตมีอาการคลั่งอย่างหนักถึง 2 ครั้ง ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องช่วยกันในการควบคุมตัวตามยุทธวิธี แต่ญาติต้องการที่จะพิสูจน์สาเหตุการเสียชีวิตให้ชัดเจนเพื่อความสบายใจ ตนยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมและจะต้องให้ความสบายใจกับทางญาติ