ชุดเหยี่ยวดงอัพเดทอาการเจ้าก็อตซิลล่า สดชื่น ไม่ตรอมใจ ดีกว่าเลี้ยงในตลาด
ชุดเหยี่ยวดงอัพเดทอาการเจ้าก็อตซิลล่า สดชื่นดี ไม่ตรอมใจ สภาพแวดล้อมดีกว่าเลี้ยงในตลาด พร้อมร่ายยาวชี้แจงดราม่าที่เกิดขึ้นหลังถูกคนในสังคมตั้งคำถามและแสดงความไม่พอใจกับทางออกนี้
วันที่ 30 มีนาคม 2564 มีรายงานทางเพจ ชุดปฏิบัติการพิเศษเหยี่ยวดง (ชุดเหยี่ยวดง) ได้โพสต์อัพเดทเจ้าก็อตซิลล่า ลิงแสมอ้วน 20 กิโลกรัมที่รับตัวมาจากเจ้าของเดิมในตลาดมีนบุรีที่กำลังเป็นดราม่าอยู่ในขณะนี้ เนื่องจากหลายๆฝ่ายเกรงว่าลิงจะตรอมใจเนื่องจากถูกเลี้ยงดูใกล้ชิดกับคนเป็นอย่างดีแต่กลับต้องมาอยู่อย่างโดดเดี่ยว
ทางเพจระบุว่า "อัพเดทน้องก็อต" เมื่อวันที่ 29 มี.ค. 2564 หัวหน้าและสัตวแพทย์จากศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ป่าที่ 2 (กระบกคู่) เข้าดำเนินการติดตามดูแลลิงแสมน้ำหนักเกินมาตรฐานกรณีแก้ไขปัญหาสัตว์ป่า ดังนี้
- อาการทั่วไปของลิง ยังสดชื่นดี แสดงพฤติกรรมตามธรรมชาติของลิง กินน้ำ และอาหาร คือ กล้วย ผักกาดขาว ถั่วฝักยาว ฟักทอง เมล็ดทานตะวัน ถั่วลิสงต้ม และเสริมโปรตีนจากแมลง
- น้ำหนัก 17.2 กิโลกรัม (ลดจาก 26 มี.ค. 2564 ไป 4 ขีด)
- ลิงยังอยู่ในช่วงของการกักโรค ปรับโภชนาการและปรับพฤติกรรม
- การเจาะเลือดส่งตรวจผู้ดูแลเดิมไม่ประสงค์ให้ทำการวางยาสลบ จึงให้ความร่วมมือช่วยจับบังคับลิงในระหว่างเจาะเลือด แต่ไม่สามารถเจาะเลือดได้ เนื่องจากมีข้อจำกัดที่ต้องทำการเจาะเลือดที่ขา ท่าจับบังคับไม่ค่อยเหมาะสม หาเส้นเลือดได้ยากเนื่องจากลิงมีน้ำหนักตัวมาก
- ลิงเข้าพักในกรงพักสัตว์ป่าชั่วคราวภายในคลินิกสัตว์ป่า ศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ป่าที่ 2 (กระบกคู่) ซึ่งเป็นห้องพักที่ใหญ่ขึ้น ผู้ดูแลเดิมเกิดความพึงพอใจ และยอมรับได้
โดยก่อนหน้านี้ในวันเดียวกัน ทางเพจได้โพสต์ชี้แจงกรณีดราม่าการเคลื่อนย้ายเจ้าก๊อตซิลล่า ระบุว่า ข้อมูลกรณีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช รับมอบลิงแสม ชื่อ "ก็อตซิลล่า"มาดูแล
เมื่อวันที่ 23 มีนาคม 2564 สื่อสถานีโทรทัศน์ไทยได้นำเสนอข่าวต่างประเทศที่ได้รายงานข่าวผ่านช่องทางออนไลน์ในต่างประเทศเกี่ยวกับชีวิตของ"ก๊อตซิลล่า"ลิงแสมอ้วนที่อยู่ภายในตลาดนัดเขตมีนบุรีกรุงเทพมหานคร ประเทศไทย และว่าน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นถึงขั้นอันตราย มากกว่า20 กิโลกรัมเกินกว่าน้ำหนักปกติของลิงแสม ซึ่งน้ำหนักปกติจะอยู่ที่ระหว่าง 8 ถึง 10 กิโลกรัม หลังจากกินเศษอาหารที่ประชาชนให้ระหว่างเดินผ่านไปมา ซึ่งสื่อดังกล่าว แสดงภาพลิงอายุสามปีมีเชือกผูกติดอยู่สวมเสื้อยืดรัดรูปนั่งอยู่บนแผงลอย แทะขวดน้ำพลาสติก ก่อนจะเหวี่ยงขวดน้ำทิ้งไป โดยมีประชาชนที่เดินตลาดรุมล้อมถ่ายรูป พร้อมกับยื่นอาหารให้ลิงกิน นายมานพ เจ้าของแผงลอย บอกว่าได้เลี้ยงดู "ก็อตซิลล่า" หลังถูกเจ้าของแผงลอยคนเก่าทิ้ง ซึ่งได้ดูแลและให้อาหารเป็นอย่างดี จนไม่สามารถควบคุมน้ำหนักของลิงตัวดังกล่าวได้ และลิงดังกล่าวยังมีนิสัยดุร้าย ทำร้ายคนแปลกหน้าที่มาแตะต้อง
ข้อเท็จจริง
เมื่อวันที่ 25 มีนาคม 2564 เวลา 13.00 น. คณะเจ้าหน้าที่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช นำโดยทีมสัตวแพทย์ ชุดปฏิบัติการเหยี่ยวดง และชุดปฏิบัติการพิเศษ1362 สำนักป้องกัน ปรามปราม และควบคุมไฟป่า ได้เข้าตรวจสอบข้อเท็จจริง บริเวณ ตลาดมีนบุรี ถนนศรีหบุรานุกิจ แขวงมีนบุรี เขตมีนบุรี กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นที่พักอาศัยของลิงชื่อ "ก็อตซิลล่า" ตามที่มีการเสนอข่าวดังกล่าวข้างต้น ผลสรุปดังนี้
1. สถานที่ดังกล่าวเป็นแผงขายอาหารประเภทลูกชิ้น บริเวณ ตลาดมีนบุรี ถนนศรีหบุรานุกิจ แขวงมีนบุรี เขตมีนบุรี กรุงเทพมหานคร
2. พบชาย ทราบชื่อภายหลังว่า นายมานพ เอ็มสรรค์ (อายุ 59 ปี) แสดงตนเป็นผู้ดูแลลิงแสม
3. คณะเจ้าหน้าที่ได้ตรวจพบสัตว์ป่าคุ้มครอง จำพวกสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ชนิดลิงแสม นั่งอยู่บนพื้นใต้แผงขายลูกชิ้น มีลักษณะอ้วน อายุประมาน 3 ปี
4. นายมานพฯ ได้ให้ถ้อยคำว่า ได้เลี้ยงดูลิงตัวดังกล่าวมาประมาน 3 ปี เนื่องจากพ่อแม่ของลิงได้ถูกรถชนตาย จึงได้นำลูกลิงมารักษาและเลี้ยงดู
5. สัตวแพทย์มีความเห็นว่า ลิงแสมตัวดังกล่าว เป็นลิงแสม เพศผู้ อายุประมาณ 3 ปี สุขภาพภายนอก น้ำหนักเกินจากปกติมาก และสถานที่ไม่เหมาะสมกับการเลี้ยงดู
6. คณะเจ้าหน้าที่พิจารณาแล้ว จึงได้แจ้งให้นายมานพฯ ทราบว่า
6.1 ลิงแสม เป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง ตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครอง พ.ศ. 2562 ไม่สามารถครอบครองหรือทำการเลี้ยงดูแลได้ ถ้าไม่เคยแจ้งการครอบครองตามกฏหมายไว้
6.2 นายนานพฯ ยินดีส่งมอบลิงแสมคืนกรมอุทยาน แห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช เพื่อ นำลิงตัวดังกล่าว ไปดูแลและรักษา
6.3 กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช โดยกลุ่มงานจัดการสุขภาพสัตว์ป่า มอบให้ฝ่ายช่วยเหลือและสวัสดิภาพสัตว์ป่า ดำเนินการส่งลิงแสมต่อไปที่ศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ป่าที่ 2 (กระบกคู่) ตำบลคลองตระเกรา อำเภอท่าตะเกียบ จังหวัดฉะเชิงเทรา เพื่อฟื้นฟูและดูแลสุขภาพดังนี้
6.3.1 ตรวจเลือดเพื่อดูสุขภาพโดยรวมและตรวจหาโรคหากพบว่าไม่มีโรคติดต่อใด
6.3.2 จะทำการลดอาหารที่ไม่เหมาะสมและให้กินอาหารเพื่อสุขภาพ
6.3.4 ประเมินสุขภาพและฟื้นฟูพฤติกรรมให้ลิงกลับมามีพฤติกรรมตามธรรมชาติ
6.4 ปัจจุบันศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ป่าที่ 2 (กระบกคู่) ได้ดำเนินการเพิ่มเติมดังนี้ 6.4.1 ทำกรงขนาด 2×2×2 เมตร ซึ่งแล้วเสร็จไปประมาณ 70%
6.4.2 สิ่งที่ต้องทำเพิ่ม
- ทาสีกันสนิม (ต้องรอสีแห้งก่อน น่าจะเข้าอยู่ได้ในวันพุธที่ 31 มีนาคม 2564)
- ล้อมผ้ามุ้งเขียวกันยุง
- แผ่นไม้สำหรับนั่ง + แผ่นไม้สำหรับไต่ปีนป่าย
- ชิงช้าห่วงยางสำหรับโหนเล่น
- รางอาหาร
- จุ๊บน้ำ
และต่อไปจะทำเป็นโรงเรือนกั้นกรงและเสริมตาข่ายกั้นภายนอกอีกชั้นหนึ่ง
7. สัตวแพทย์ประจำศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ป่าที่ 2 (กระบกคู่) ได้แจ้งว่า ปัจจุบันลิงแสมเริ่มปรับปรับตัวได้ ไม่มีอาการซึมเศร้าหรือตรอมใจ และสามารถกินอาหารธรรมชาติได้ตามปกติ
8. กรมอุทยานฯ ได้แจ้งความคืบหน้าในการดูแลลิงแสม ให้เจ้าของผู้ดูแลทราบเป็นระยะๆ และแจ้งให้เจ้าของมาเข้าร่วมโครงการพ่อแม่อุปถัมภ์สัตว์แล้ว ซึ่งสามารถจะมาเยี่ยมดูแล นำสิ่งของเครื่องใช้ของลิงมาให้ได้ หรือจะบริจาคเงินค่าอาหารช่วยเหลือก็ได้ ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็ได้ดูแลลิงแสมตัวนี้เป็นกรณีพิเศษ โดยให้อยู่ในกรงขนาดใหญ่ตัวเดียว สถานที่เลี้ยงก็จะเหมาะสมกว่าในตลาด และอยู่ในความดูแลของสัตวแพทย์ผู้เชี่ยวชาญอย่างใกล้ชิด ซึ่งเจ้าหน้าที่มีความสามารถและอุปกรณ์พร้อม เพราะเคยรักษากรณีลิงอ้วนมาหลายตัวแล้ว อย่างเช่น ลิงอ้วนที่บางขุนเทียน ซึ่งเจ้าของก็รับทราบและเข้าใจในระเบียบและข้อกฏหมาย ตลอดจนการดูแลของเจ้าหน้าที่เป็นอย่างดีแล้ว
ขอบพระคุณทุกความคิดเห็น ทุกข้อเสนอแนะ