ถือเป็นอีกหนึ่งเหตุการณ์สุดวิกฤตทั่วโลก หลังจากที่เรือบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์สินค้า เอฟเวอร์ กิฟเวน (Ever Given) ที่มีความยาวกว่า 400 เมตร และหนักกว่า 200,000 ตัน ลอยลำติดขวางคลองสุเอซ ประเทศอียิปต์ มาตั้งแต่วันที่ 23 มีนาคม 2564 ที่ผ่านมา ซึ่งทำให้การค้าคมนาคมเป็นอัมพาตไปชั่วขณะ เนื่องจาก คลองสุเอซ เป็นหนึ่งในเส้นทางขนส่งทางน้ำที่พลุกพล่านและสำคัญที่สุดในโลก
ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องเร่งจัดการให้ได้โดยเร็วที่สุด เนื่องจากทุกนาทีที่เรือลำดังกล่าวขวางกลางคลองอยู่อย่างนั้น นั่นหมายความว่าเป็นการสูญเสีญรายได้อย่างมหาศาลในทุกๆ วินาที ซึ่งข้อมูลจาก Lloyd's List ได้รายงานความเสียหายในส่วนนี้ว่า สินค้าในแต่ละวันอยู่ที่ประมาณ 9,600 ล้านดอลลาร์ สินค้าประมาณ 9.6 พันล้านดอลลาร์ หรือราว 3 แสนล้านบาท หรือคิดเป็น 400 ล้านดอลลาร์ (ราว 12,500 ล้านบาท) ต่อชั่วโมง
ขณะเดียวกัน นายพลโอซามา ราบี ประธานหน่วยงานคลองสุเอซ ได้รายงานว่า จากการประเมินแล้ว ประเทศอียิปต์ต้องสูญเสียรายได้มากถึงวันละ 14 ล้านดอลลาร์ (ราว 430 ล้านบาท) นับตั้งแต่วันที่คลองสุเอซถูกปิดขวางจากเรือยักษ์ลำดังกล่าว
แต่จากรายงานล่าสุดดูเหมือนว่าความหวังที่จะกอบกู้ให้เรือยักษ์คลายจราจรในคลองสุเอซเริ่มมีความหวัง เมื่อเจ้าหน้าที่คลองสุเอซได้ดำเนินการขุดทรายปริมาณกว่า 20,000 ตัน และใช้เรือลากจูง 14 ลำ ช่วยดึงและผลักดันท่ามกลางกระแสน้ำและลมแรง ทำให้สามารถเคลื่อนเรือใหญ่ได้แล้วประมาณ 30 องศา ทั้ง 2 ทิศทางทั้งส่วนหัวเรือและท้ายเรือ หางเสือและใบพัดเริ่มกลับมาทำงานอีกครั้ง
นอกจากนี้ นายพลโอซามา ยังได้เปิดเผยอีกว่า ในไม่ช้าเรือยักษ์ลำนี้จะเคลื่อนตัวออกจากจุดที่มันติดอยู่ได้ แต่หากยังไม่สามารถเคลื่อนย้ายได้ จำเป็นต้องใช้แผนสำรอง ซึ่งทีมกู้ภัยอาจต้องขนย้ายตู้คอนเทนเนอร์ที่มีอยู่บนเรือ 18,300 ตู้ ออกบางส่วน เพื่อแบ่งเบาภาระเรือ แต่ด้วยความสูงของเรือ วิธีนี้ต้องใช้ระยะเวลานานหลายสัปดาห์ อีกทั้งจะมีเรือลากจูงอีก 2 ลำจากอิตาลีและเนเธอร์แลนด์ รวมทั้งกองทัพเรือสหรัฐฯ เตรียมพร้อมที่จะเข้าร่วมและช่วยขุดลอกนำเรือออกจากทางน้ำของอียิปต์
ส่วนส่าเหตุที่เรือลำนี้ติดขวางคลองสุเอซนั้น นายพลโอซามา กล่าวว่า เนื่องจากก่อนหน้านี้มีรายงานว่า ลมแรงและพายุทรายที่ส่งผลต่อทัศนวิสัย แต่นั่นอาจจะไม่ใช่สาเหตุหลัก ซึ่งอาจมีข้อผิดพลาดทางเทคนิคหรือจากฝีมือมนุษย์ ปัจจัยเหล่านี้ทั้งหมดจะปรากฏชัดเจนในการสืบสวน
อย่างไรก็ตาม ขณะที่ผู้จัดการด้านเทคนิคของเรือ เอฟเวอร์ กิฟเวน (Ever Given) ยังได้เปิดเผยถึงลูกเรือทั้ง 25 คนอีกว่า ทั้งหมดยังคงอยู่บนเรือ ซึ่งน่ายินดีที่ลูกเรือทั้ง 25 คนมีสุขภาพดีและสภาพจิตใจที่ดี