แอน จักรพงษ์ ทนกระแสดราม่าไม่ไหว ออกโรงป้องลูกเรื่องความรัก

ถือเป็นประเด็นดราม่าที่ถูกพูดถึงอย่างหนัก หลังจากที่ก่อนหน้านี้นักธุรกิจสาวข้ามเพศคนเก่ง "แอน จักรพงษ์ จักราจุฑาธิปดิ์" ที่ได้ออกมาพูดถึงเรื่องราวความรักของตนเองว่าคบผู้ชาย 4 คน แต่ขอเลือกคนเดียว เพื่อใช้ชีวิตร่วมกันในบั้นปลายชีวิต โดย 4 หนุ่มที่กำลังออดิชั่น คือ "เบนจามิน" หนุ่มอังกฤษ หรือที่รู้จักกันคือ เฮีย เบอร์ 1, "คลิ้นท์ บอนแดด" อดีตแฟนหนุ่มของอดีตนางงามจักรวาล แคทรีโอนา เกรย์ หรือพี่หมี เบอร์ 2, "เคิร์ก บอนแดด" น้องชายพี่หมี เบอร์ 3 และกัปตัน นักฟุตบอลตุรกี เบอร์ 4 จนเป็นที่ฮือฮามาแล้วครั้งหนึ่ง

 

 

ล่าสุด แอน จักรพงษ์ ได้โพสต์เฟซบุ๊ก ขอประกาศหยุดออดิชั่น โดยระบุว่า “Stuck with you เฮียคนเดียว ไม่ต้องพูดมากเข้าใจยัง! หยุดการออดิชั่น!!! กราบขอบพระคุณยายย่าที่ให้คำแนะนำดีๆ กับลูกคนนี้เสมอ (ถึงแม้ดิฉันเป็นคนดื้อไม่ฟังใคร!) รวมถึงแฟนคลับทุกคนที่ให้กำลังใจแอนมาโดยตลอด ช่วงนี้เฮียกับแอนคุยกันมากเกี่ยวกับการบริหารอนาคตร่วมกัน เฮียได้รับตำแหน่งเป็นรองประธานบริษัทและต้องทำงานที่ต่างประเทศ เฮียยืนยันที่จะสร้างเนื้อสร้างตัวก่อนจะมาเป็นหัวหน้าครอบครัว

สิ่งที่เราทั้งคู่ต้องทำก็คือการรักษาคุณค่าทางหัวใจ เพื่อให้กาลเวลาและพรหมลิขิตเป็นเครื่องพิสูจน์ว่า ‘รักนี้เป็นของเธอจากนี้และตลอดไป’

ในช่วงอดีตที่ผ่านมา แอนย้ำอีกครั้งว่าแอนขอโทษทุกคนที่แสดงอาการต้องเอาชนะให้ได้ผ่านหน้าจอทีวีทุกรายการที่ไป ซึ่งความรักไม่ใช่ธุรกิจ แต่มันยิ่งเจ็บก็ยิ่งรักจริงๆ อยากให้ทุกคนเข้าใจแอนและลูกเหมือนกัน แอนรู้สึกไม่ดีที่ใช้ผู้ชายคนอื่นเป็นเครื่องมือในการประชดเฮียและพูดจาแรงๆ ออกหน้าสื่อเพื่อให้เฮียรับรู้ถึงความโกลาหลแต่คนที่เจ็บเองคือแอนเสมอ

 

แอนยอมรับว่าหลงหนุ่มๆ เหล่านั้นในอดีต โดยเฉพาะหมีคนโตแต่แอนไม่เคยรักเลย จนเขาเกือบบ้าที่รู้ว่าทำยังไงเขาก็มาแทนเฮียไม่ได้ (ในมิวสิกวิดีโอ สั่งหัวใจให้เลือกใครไม่ได้ ล้วนเป็นคำพูดของคลิ้นท์จริงๆ ไม่ได้มาจากสคริปต์ใดๆ) ทุกช่วงเวลาที่อยู่กับแต่ละคน มันเป็นเพียงแค่การคลายเหงาชั่วคราว แต่ต่อมาก็รู้สึกสงสารที่ให้ความหวังกับพวกเขา ความสัมพันธ์กับผู้ชายทั้งหมด แอนขอยืดอกยอมรับด้วยใจนักเลงว่าในอดีตแอนไม่ควรถลำปล่อยให้มันเกิดขึ้นทั้งทางกายและใจ ตอนนี้แอนต้องยุติมันทั้งหมดโดยการไม่ต่อวีซ่าให้ใครทั้งสิ้น โดยเฉพาะหมีใหญ่ที่ส่งกลับไปตั้งแต่ปลายพฤศจิกายนปีที่แล้ว

แอนก็ยังคุยกับแม่เขาอยู่เสมอ แต่ไม่ขอคุยกับเขา และส่งเงินผ่านคุณแม่เขาด้วยความห่วงใย ส่วนหนุ่มตุรกีกลับไปแล้วหนึ่งเดือน ก็คงจะช็อกเหมือนกันที่เราไม่หยิบยื่นโอกาสให้เขากลับมาอีก แต่เราต้องแข็งใจ (กัปตันเป็นคนน่ารักและดูแลความรู้สึกแอนดีมาก ซึ่งเค้าเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้หมีใหญ่เกรี้ยวกราดรุนแรงถึงกับชูนิ้วกลางให้กันกลางกองถ่าย) ส่วนน้องหมีตอนนี้กลับมาอยู่เมืองไทยกับแอนได้เดือนกว่าแล้วคะ ก็คงต้องเคลียร์ให้ชัดว่าเหลือสถานะเพียงแค่พี่น้อง และช่วยเลือกสาวๆ ที่ชอบเขา สนิทกับเขา หรือมาขายขนมจีบเขาอยู่ ไม่งั้นคงต้องยกเลิกวีซ่าเช่นกัน แอนต้องเด็ดเดี่ยวกับเรื่องพวกนี้ทั้งหมด และขอมีเพียงแค่รักเดียวถึงแม้ต้องอดทนกับการรอคอยก็ตาม

ท้ายที่สุดแอนถามเฮียสั้นๆ ว่า ‘ยกโทษให้แอนได้ไหมกับเรื่องทั้งหมด?’ เฮียก็ตอบสั้นๆ เช่นกันว่า ‘ผมก็มีส่วนที่ทำให้มันเกิดขึ้น พูดไปแล้วได้อะไร นอกจากเดินหน้ารักแอนต่อไปเท่านั้นเอง’ รักที่สุด…สุดที่รักของฉัน…รักเฮียคนเดียวคะ อนาคตจะเป็นอย่างไรต่อไป ขอให้ฟ้าบันดาลลิขิตแล้วกัน เฮียกับแอนและลูกทั้งสองจะทำให้ดีที่สุดคะ รักแฟนคลับทุกคนด้วยความซาบซึ้งจริงๆ คะ ด้วยรักจากหัวใจ”

 

ต่อมา แม่ของแอน จักรพงษ์ (ยายย่า) ทนกระแสดราม่า ไม่ไหว ขอชี้แจง เรื่องความรัก พร้อมป้องลูกสาว "แอน จักรพงษ์" ผ่านพื้นที่ส่วนตัว  แฟนเพจ Cafe' Anne โดยมีใจความตามโพสต์ตอนหนึ่งว่า

"หัวใจคนเป็นแม่อยากบอก...
ยายย่า อยากจะขอพูดให้ทุกคนเข้าใจค่ะ ถึงความรู้สึกของลูกสาวชื่อแอน จักรพงษ์ เธอเป็นคนที่ขาดประสบการณ์รัก !!! เธอทุ่มหัวใจเกินร้อย ไม่ติดเกียร์เบรคให้กับเบน ซึ่งยายย่าก็มองเห็นเบนเป็นผู้ใหญ่ ที่น่ารักไม่ติดขัดอะไร เบนเป็นคนขยัน ติดดิน มุ่งมั่นเป็นคนทำงานมาโดยตลอด แต่ต้นตอของปัญหาคือผู้ชายทุกคนที่เข้ามาในชีวิตของแอน พวกเขามักจะรู้สึกว่าตัวเองดีไม่พอและจะถูกสังคมวิจารณ์อย่างหนักเรื่องสถานะการเงินถ้าจะมาเคียงคู่กัน

แอนกับเบน เริ่มต้นคบกันเมื่อ7ปีที่แล้วจากความเป็นเพื่อน เบนรับรู้นิสัยของแอน ว่าเป็นคนบ้างาน มีความเด็ดเดี่ยว อดทนที่จะฟันฝ่าอุปสรรคและมุ่งมั่นตั้งใจ ที่จะสร้างเนื้อสร้างตัว จนวันนั้นกลายเป็นจริงในวันนี้ และเมื่อแอนได้กลายเป็นผู้หญิงเต็มตัว ความประทับใจและความใกล้ชิด ผูกพันธ์นานๆไปก็เปลี่ยนจากเพื่อนสนิทมาเป็นคนรัก ยายย่ารับรู้ในเหตุการณ์ เรื่องราวมาโดยตลอด  เบนเคยแสดงความอาทรห่วงใย เมื่อทราบว่าเราจะไปรับน้องแอนดรูว์แรกคลอดที่อเมริกา เขาตามไปรับลูกด้วยกันที่อเมริกา ทำให้พวกเราแอบประทับใจ มองหน้ายิ้มกันสองแม่ลูก(เผลอคิดว่าเบนคงอยากเป็นพ่อแล้วมั้ง) ผู้ชายที่อยู่กับแอนได้ต้องใจเย็น ฟังเป็น นิ่งได้ สงบเป็น แอนมักจะเอางานมาก่อนอย่างอื่น เป็นคนรับผิดชอบสูงมากและเสพติดความสำเร็จ ลูกสาวของยายย่าคนนี้เอานิสัยการทำงานที่ต้องชนะมาใช้ในเรื่องของความรักแล้วพอไม่ได้ก็หาวิธีต่างๆที่จะทำให้เบนยอม แต่มันยิ่งทำให้ทุกอย่างวุ่นวายมากขึ้น

เริ่มจากครั้งแรกที่รับคลิ้นท์มาอยู่ด้วยกันที่ไทยเพื่อประชดเบน เพราะเบนไม่ยอมมาอยู่เมืองไทยสักที ยายย่าก็ถามว่าคิดดีแล้วหรือ ซึ่งปกติแอนเป็นคนมีความมั่นใจสูงจะทำอะไรก็ห้ามไม่ได้อยู่แล้ว  จนเรื่องราวเป็นข่าวใหญ่โต ทั้งในไทยและฟิลิปปินส์ เบนถึงกับหยุดคุยกับแอนไปพักใหญ่ๆ คงด้วยความน้อยใจหรือโกรธ

แอนมีความสุขความบันเทิงขณะอยู่กับคลิ้นท์ ดูแลเขาเป็นอย่างกับราชา สุขสบายทุกอย่าง จะไปไหนมีคนขับพร้อมรถ อยู่ที่บ้านมีเมท แม่บ้านทำอาหารให้กินทั้งวันทั้งคืน ต้องการอะไรได้ทุกอย่าง สบายแบบนี้ใครจะไม่อยากอยู่ด้วย คลิ้นท์คงต้องการเป็นเจ้าของแอน เพียงผู้เดียวผู้ชายคนไหนก็ห้ามเข้าใกล้ทั้งสิ้น แอนเริ่มพาคลิ้นท์ไปออกรายการทีวี ทำงานด้วยกัน แบบใกล้ชิด
อีกนัยหนึ่งต้องการ ประชดให้เบนรับรู้ว่าต้องรีบกลับมาไม่อย่างนั้นมีผู้ชายคนอื่นมารอเสียบแล้ว แต่เบนด้วยความเป็นผู้ใหญ่ก็เงียบมาโดยตลอด จนแอนทำให้มันหนักขึ้นกว่าเดิมโดยการมี นายกัปตัน และเคิร์ก เพิ่มเข้ามาอีก ซึ่งคนที่ได้รับผลกระทบร้ายแรงที่สุดก็คือคลิ้นท์ เขาเริ่มคลั่งมากขึ้นเรื่อยๆโดยนั่งเฝ้าแอน รอแอนที่บ้านตลอดเวลา เหมือนคนบ้าที่ขอคำยืนยันความรักจากปากแอน จนแอนเหนื่อยและเครียดไปหมดทั้งเรื่องงานและเรื่องส่วนตัว  

ยายย่าไม่เคยเห็นแอนร้องไห้มานานมาก ในที่สุด ยายย่าเห็นความผิดปกติของคลิ้นท์ กระทำมากขึ้นๆเรื่อยๆ ก็คิดห่วงความปลอดภัยของแอน คุยกับลูกว่า”แอนลูกมีภาระที่ยิ่งใหญ่รออยู่นอกจากบริษัท ยังมีลูกๆทีน่ารักให้เธอต้องเลี้ยงดูพวกเขานะ” ยายย่าขอให้แอนไม่ต่อวีซ่าทำงานให้คลิ้นท์ เพื่อยุติปัญหาทั้งปวง

แอนรับฟัง!!! เมื่อถึงวันที่จะตัดสินใจส่งคลิ้นท์กลับบ้านเพราะสภาวะทางจิตของทั้งสองคนเริ่มแย่แล้ว แอนเสียใจมากที่ต้องส่งเขากลับโดยหักดิบไม่ต่อวีซ่าให้  เหมือนแอนสูญเสียคนสนิทที่สุดในชีวิตคนหนึ่ง ที่เขาสร้างเสียงหัวเราะให้ทุกคืน พอจบเรื่องคลินท์แล้ว แอนต้องทำงานไปออกรายการแฉ ยายย่าก็มีลางสังหรณ์แล้วว่าแอนจะต้องเหยียบสุดเกียร์แน่ๆ เพื่อประชดเบนแบบให้ดังที่สุด สิ่งเหล่านั้นก็เกิดขึ้นจริงๆ

แอนเขาเป็นคนที่เคารพผู้ชมทุกครั้งที่ออกทีวีเขาจะนอบน้อมถ่อมตนบ่อยๆครั้งเสมอ วันนั้นไม่ได้ตั้งใจพูดให้คนฟังไม่สบายใจ หรือขัดหู แค่ปากพาไปไม่ได้แตะเบรค 
วันรุ่งขึ้นเขาก็มีจิตสำนึก ออกมารับผิดชอบ ขอโทษ ขออภัย ทันทีเพราะจริงๆแล้วแอนไม่มีเจตนาทำร้ายใคร ไม่ได้อยู่ในความคิดแอนเลยสักนิดเดียว มีเพียงแค่วัตถุประสงค์เดียวคือต้องการให้ผู้ชายที่ตัวเองรักมากที่สุดได้ยินว่าเค้าเจ็บและจงกลับมา      

ที่ผ่านมาแอนแค่ต้องการประชดและเอาชนะเบน แอนไม่เคยรักผู้ชายอีกสามคนเลย รักแต่เบนคนเดียว ยายย่าคิดว่าบทเรียนที่ผ่านมา คงบอกอะไรได้ดีว่าสุดท้ายแอนควรเลือกใคร ที่ตั้งตารอเธอและรักเธอเสมออย่างเบนเพราะเป็นผู้ชายที่ต้องการสร้างเนื้อสร้างตัวด้วยตนเอง ด้วยความภูมิใจในตนเอง

สุดท้ายทุกวันนี้แอนก็ไม่เคยนิ่งดูดาย ส่งเงินให้คลิ้นท์ตลอดทุกเดือนผ่านไปทางคุณแม่ของเขาที่เยอรมันนี ซึ่งแอนก็มักจะอัพเดทภาพแม่เขาและคลิ้นท์ในปัจจุบันมาให้ยายย่าดูเสมอ
บทเรียนที่ผ่านมา สิ่งที่แอนได้รับรู้คือ ความรักไม่เหมือนกับการทำธุรกิจ ต้องใจเย็นมากกว่านี้ ห้ามเอาชนะคะคานด้วยการประชดประชันแต่ต้องใช้เวลาที่จะสร้างรัก สร้างความเข้าใจ ทั้งสองฝ่ายไปด้วยกัน

ยายย่าเขียนจากความรู้สึก ไม่ใช่บทละคร อาจจะสั้นเพราะไม่อยากเขียนยืดยาว แค่ขอให้ทุกกำลังใจที่ส่งมาให้แอน มั่นใจว่าส่งมาไม่ผิดคนค่ะ ขอขอบคุณ ทุกความรักที่ส่งมาให้รวมทั้งความห่วงใย กำลังใจ จากทุกคนนะคะ เราครอบครัวจักราจุฑาธิบดิ์ ขอน้อมรับด้วยความขอบพระคุณยิ่งค่ะ อำไพ จักราจุฑาธิบดิ์ (ยายย่า)"