ศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย(ปภ.) แจ้งเตือนให้เฝ้าระวัง ในช่วงวันที่ 19-20 มี.ค. 64 หย่อมความกดอากาศต่ำเนื่องจากความร้อนปกคลุมประเทศไทยตอนบน
ทำให้มีอากาศร้อนถึงร้อนจัดบางพื้นที่
สำหรับลมตะวันออก ที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้มีกำลังอ่อน ทำให้ภาคใต้มีฝนน้อย ส่วนคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร และทะเลอันดามัน มีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร วันที่ 21 มี.ค. 64 บริเวณความกดอากาศสูงกำลังปานกลางจะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้ ในขณะที่ประเทศไทยตอนบน มีอากาศร้อน ถึงร้อนจัด ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณประเทศไทยตอนบนมีพายุฤดูร้อนเกิดขึ้น โดยมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนองลมกระโชกแรง และจะมีลูกเห็บตกบางพื้นที่ เริ่มจาก ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล
วันที่ 21 มี.ค.64 ลมตะวันออกที่พัดปกคลุมอ่าวไทยและภาคใต้จะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้น คลื่นลมบริเวณอ่าวไทย และทะเลอันดามันมีคลื่นสูง1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร พื้นที่ฝนฟ้าคะนอง ภาคเหนือ จ.พิษณุโลก ตาก เพชรบูรณ์ และอุทัยธานี ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จ.เลย ชัยภูมิ นครราชสีมา บุรีรัมย์ และอุบลราชธานี ภาคกลาง จ.กาญจนบุรี ราชบุรี สระแก้ว ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด
พื้นที่เสี่ยงอากาศร้อนจัด ภาคเหนือ จ.ลำปาง (อ.เมืองฯ) จ.ตาก (อ.เมืองฯ) และจ.เพชรบูรณ์ (อ.เมืองฯ) ขอให้ประชาชนติดตามข้อมูลสภาวะอากาศและข่าวสารจากทางราชการ พื้นที่คุณภาพอากาศระดับมีผลกระทบต่อสุขภาพ/เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ ควรลดระยะเวลาการทำกิจกรรมกลางแจ้งและใช้อุปกรณ์ป้องกันตนเองตลอดเวลา พื้นที่ที่มีอากาศร้อนจัด ขอให้ดื่มน้ำบ่อย ๆ ลดระยะเวลาการทำกิจกรรมกลางแจ้งและระวังอาการโรคลมแดด(Heat Stroke)
วันที่ 19-21 มี.ค. 64 สถานการณ์คุณภาพอากาศ ค่า PM 2.5 มีแนวโน้มการสะสมของฝุ่นละออง/หมอกควันทรงตัว เนื่องจากลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้ ยังคงพัดปกคลุมบริเวณภาคกลาง ทำให้การลอยตัวของอากาศได้สูง แต่ยังคงมีการสะสมของฝุ่นละออง/หมอกควันในบางพื้นที่ ยกเว้นภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีแนวโน้มการสะสมของฝุ่นละออง/หมอกควันเพิ่มขึ้น เนื่องจากมีฝุ่นละอองจากการเผาไหม้เป็นจำนวนมาก และลมที่พัดปกคลุมมีกำลังอ่อน ทำให้การลอยตัวของอากาศได้ต่ำ
ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น อปพร.จิตอาสา เครือข่ายอาสาสมัคร องค์กรสาธารณกุศลได้เตรียมความพร้อมตามแผนเผชิญเหตุ เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์ พร้อมประชาสัมพันธ์ และสร้างการรับรู้ให้กับชุมชน/หมู่บ้านในทุกช่องทาง ทั้งในรูปแบบที่เป็นทางการและไม่เป็นทางการ เพื่อให้ประชาชนได้รับทราบ ถึงแนวทางการปฏิบัติตนอย่างปลอดภัย เช่น สื่อสังคมออนไลน์ วิทยุชุมชน หอกระจายข่าวหรือเสียงตามสายประจำหมู่บ้าน เป็นต้น