หนุ่มพบ หมึกบลูริง เสียบไม้ย่างขายในตลาด พิษอันตรายร้ายแรงกว่างูเห่า

12 มีนาคม 2564
1

หนุ่มฝากคนตาดีช่วยดู หลังพบ "หมึกบลูริง" เสียบไม้ย่างขายในตลาด พิษอันตรายร้ายแรงกว่างูเห่า

เคยเป็นเรื่องสร้างความหวาดผวาให้ประชาชนมาหลายครั้งแล้ว เมื่อมีผู้ไปพบ "หมึกบลูริง" ถูกนำเสียบไม้ย่างขายตามตลาด ซึ่งหมึกชนิดนี้ เป็นหมึกสายวงน้ำเงินมีพิษร้ายแรงต่อผู้บริโภคเป็นอย่างมาก ซึ่งสร้างอันตรายถึงขั้นเสียชีวิตด้วย โดยล่าสุดเพจเฟซบุ๊ก "อยากดังเดี๋ยวจัดให้ version2 by kim" ได้เผยแพร่เรื่องราวหนุ่มคนหนึ่ง ได้ไปเจอหมึกบลูริงเสียบไม้ย่างโผล่ขายอยู่ในตลาดอีกครั้งหนึ่ง โดยทางเพจได้มีการระบุข้อความว่า

หนุ่มพบ หมึกบลูริง เสียบไม้ย่างขายในตลาด พิษอันตรายร้ายแรงกว่างูเห่า

"ใครตาดีและมีความรู้เกี่ยวกับหมึกที่มีพิษ (หมึกบูลริง) ลองดูในภาพสิว่ามันมีหมึกพิษปะปนไหมม ถ้ามีเอามาขายแบบนี้ คนที่กินไปจะอันตรายมากไหม มันคือหมึกบลูริงใช่ไหม ขอผู้มีความรู้เราเจอที่ตลาดมีคนขาย เราถามพ่อค้าบอกลูกปลาหมึก 11 มีนาคม 64 เราเตือนพ่อค้าแล้วแต่เขาจะขายทำไงได้ ตลาดตรงพื้นที่นี้ครับ ผมไม่ได้ซื้อมานะครับ เพราะผมไม่มีความรู้เคยเห็นผ่านๆ เลยได้แต่บอกพ่อค้า" โดยหลังจากที่เรื่องราวดังกล่าวเผยแพร่ออกไป ได้มีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นและแชร์ส่งต่อข้อมูลเป็นจำนวนมาก หลายคนบอกว่าหมึกที่ถูกนำมาย่างขายนั้น มีหมึกบลูริงปะปนอยู่ด้วย

หนุ่มพบ หมึกบลูริง เสียบไม้ย่างขายในตลาด พิษอันตรายร้ายแรงกว่างูเห่า

สำหรับ หมึกบลูริง หรือ หมึกสายวงน้ำเงิน  เป็นหมึกในสกุล Hapalochlaena ในอันดับหมึกยักษ์ จัดเป็นหมึกขนาดเล็กจำพวกหนึ่ง มีจุดเด่น คือสีสันตามลำตัวที่เป็นจุดวงกลมคล้ายแหวนสีน้ำเงินหรือสีม่วง ซึ่งสามารถเรืองแสงได้เมื่อถูกคุกคาม ตัดพื้นลำตัวสีขาวหรือเขียว แลดูสวยงามมาก แต่ทว่า หมึกสายวงน้ำเงินนั้นมีพิษที่ผสมอยู่ในน้ำลายที่มีความร้ายแรงมาก ซึ่งร้ายแรงกว่างูเห่าถึง 20 เท่า ผู้ที่ถูกกัดจะตายภายใน 2-3 นาที ทั้งสามารถฆ่าคนได้ 26 คนในคราวเดียว นับเป็นหนึ่งในสัตว์น้ำที่มีพิษร้ายแรงมากที่สุดชนิดหนึ่งของโลก

หนุ่มพบ หมึกบลูริง เสียบไม้ย่างขายในตลาด พิษอันตรายร้ายแรงกว่างูเห่า

โดยที่สารพิษของหมึกสายวงน้ำเงินนั้น เรียกว่า เตโตรโดท็อกซิน (tetrodotoxin) เป็นพิษชนิดเดียวกับที่พบในปลาปักเป้า พิษชนิดนี้ออกฤทธิ์ต่อระบบประสาท โดยจะเข้าไปขัดขวางการสั่งงานของสมองที่จะไปยังกล้ามเนื้อที่อยู่ใต้อำนาจจิต คนที่ถูกพิษจะมีอาการคล้ายเป็นอัมพาต หายใจไม่ออก เนื่องจากกล้ามเนื้อกะบังลมและหน้าอกไม่ทำงาน ทำให้ไม่สามารถนำอากาศเข้าสู่ปอดได้ เป็นสาเหตุให้เสียชีวิต การปฐมพยาบาลต้องหาวิธีนำอากาศเข้าสู่ปอด เช่น เป่าปาก เป็นต้น จากนั้นต้องรีบนำส่งแพทย์โดยด่วน เพื่อใช้เครื่องช่วยหายใจ ถ้าช่วยชีวิตเป็นผล ผู้ป่วยจะฟื้นเป็นปกติภายใน 24 ชั่วโมง เว้นแต่ว่าจะขาดอากาศนานเกินไปจนสมองตาย

ขอบคุณ FB : อยากดังเดี๋ยวจัดให้ version2 by kim