นายสมบูรณ์ ป้องทองคำ อายุ 34 ปี ผู้นำหนังกลางแปลงมาฉาย บอกว่า เมื่อประมาณเดือนสิงหาคมปี 2563 ตนทำงานอยู่ภายในบริษัทแห่งหนึ่งและมีเศษเหล็กและจาระบีหลุดกระเด็นเข้าไปภายในดวงตาจึงรีบไปหาแพทย์ แพทย์ได้วินิจฉัยว่าดวงตานั้นเกือบบอดให้ผ่าตัดเปลี่ยนเลนส์กระจกตาหรืออีกทางหนึ่งให้ใช้เลนส์กระจกตาเดิมแต่อาจจะมองไม่เห็นอีกต่อไป
ตนจึงได้เดินทางมาที่สุสานสมาคมสว่างอุทยานธรรมสถานเพื่อบนบานศาลกล่าวแก่แป๊ะกงและดวงวิญญาณที่ประดิษฐานอยู่ภายในสุสานว่า ในวันที่แพทย์นัดจะผ่าตัดนั้นขอให้ไม่ต้องผ่าตัดและให้ดวงตากลับมาใช้ได้เหมือนเดิมเป็นปกติ ถ้าตนเองไม่ต้องผ่าตัดแล้วจะนำหนังกลางแปลงมาฉายให้ดวงวิญญาณทั้งหลายที่อยู่ภายในบริเวณสุสานนั้นดู
หลังจากนั้นตนไปที่โรงพยาบาลเพื่อตรวจเช็กร่างกายเพื่อรอวันเข้าผ่าตัดอีกครั้ง ทางแพทย์ได้บอกว่าดวงตาของตนสามารถกลับมามองเห็นได้เป็นปกติ ตนจึงได้นำหนังกลางแปลงมาฉายเพื่อแก้บนตามที่ได้บนบานศาลกล่าวเอาไว้