เวลา 15.00 น. หมอปลาเดินทางมาถึงบ้านนางตั๊ก บรรยากาศที่บ้านนางตั๊กมีชาวบ้านกว่า 200 คน มารอดูหมอปลาทำพิธี จากนั้นหมอปลาได้เดินเข้าไปหานางตั๊กอยู่ในบ้าน ใช้มือจับหน้าผากนางตั๊ก พร้อมเริ่มสอบถามอาการนางตั๊กว่ามีอาการอย่างไร นางตั๊กบอกว่าก่อนหน้านี้ตนเคยเห็นผีนั่งคร่อมแฟน และตนก็นอนไม่หลับ มีอาการกระวนกระวายตัวร้อน เป็นมากว่า 1 ปีแล้ว
นางตั๊ก เล่าว่า เวลาตนโดนผีปอบเข้าตนจะเหมือนโดนของ ร่างกายกระตุก และหมอปลาได้ใช้มือจับหน้าผาก และจับมือของนางตั๊ก ซึ่งหลังนางตั๊กจับมือกับหมอปลา นางตั๊กก็บอกว่าตนเองรู้สึกออกร้อนตามตัว หมอปลาจึงถามตั๊กว่าถ้าเอาลาบเลือดให้กิน จะกินไหม
นางตั๊กตอบหมอปลาว่า ก่อนหน้านี้ตอนที่ตนทำงานกับอดีตแฟนในตัวเมืองขอนแก่น ตนจะหิวลาบเลือด แต่ตอนนี้ตนไม่หิวแล้ว จากนั้นหมอปลาจึงไปเอาลาบเลือดใส่จานมาให้นางตั๊กกินลาบเลือดเพื่อดูอาการ หลังจากกินลาบเลือดเสร็จ หมอปลาได้บอกกับตั๊กว่าปอบไม่มีจริง ตนเองไม่ได้มาหักหน้าใคร แต่มาเพื่อต้องการให้คนในหมู่บ้านไม่ถูกหลอก
และเข้าใจว่าการเกิดแก่เจ็บตาย ไม่ได้เกิดจากผีปอบ หมอปลาบอกต่อว่าที่นางตั๊กกินลาบเลือดนั้น เป็นเพราะคนเราหิว ไม่เกี่ยวกับการเป็นปอบ คนอีสานจะกินของกิบเป็นเรื่องปกติ กรณีที่มีฤๅษีบอกว่าในตัวตั๊กมีปอบสิงอยู่ 9 ตัวนั้น หมอปลาบอกว่าเกิดจากการที่ตั๊กควบคุมตัวเองไม่ได้ จึงเกิดอาการต่าง ๆ ตามเนื้อตัว
ไม่อยากให้นางตั๊กและชาวบ้านไปเชื่อหมอธรรมที่หากินกับความเชื่อชาวบ้าน หมอปลาก็ถามตั๊กว่าได้ทานยาลดความอ้วนหรือไม่ นางตั๊กจึงบอกว่าเคยทาน หมอปลาจึงบอกตั๊กว่าอาการที่นางตั๊กเป็นอยู่นั้น ส่วนหนึ่งอาจมาจากการที่ตั๊กทานยาลดความอ้วน