thainewsonline

คดีพลิก หนุ่มราชบุรี สารภาพกุเรื่องร่อนเจอทอง ทำไปเพราะอยากดัง

28 มกราคม 2564
คดีพลิก หนุ่มราชบุรี สารภาพกุเรื่องร่อนเจอทอง ทำไปเพราะอยากดัง

ครูหนุ่ม รับสารภาพกุเรื่องร่อนเจอทองในคลองชลประทาน ซ้ำไม่ได้มีอาชีพครู พร้อมแฉมีนักข่าวอยู่เบื้องหลังสร้างเรื่องให้ พาออกรายการหาเงิน ก่อนที่จะถูกโกงค่าตัว พร้อมขอโทษชาวราชบุรีที่ทำไปเพราะรู้เท่าไม่ถึงการณ์

จากกรณี นายกรภัทร พรของแม่ หรือนายบี อายุ 33 ปี ซึ่งเป็นอาชีพครูปฐมวัย โรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.ราชบุรี ได้โพสต์เฟซบุ๊ก เล่าว่าในช่วงที่โรงเรียนปิดช่วงโควิด-19 ได้มีเวลาไปร่อนทองในคลองชลประทาน หมู่ 4 ต.ดอนตะโก อ.เมืองราชบุรี และตนสามารถร่อนได้เศษทองขึ้นมา จึงได้นำไปให้ร้านทองตรวจสอบก็พบว่าเป็นทองนพคุณ จนทำให้มีประชาชนแห่กันนำอุปกรณ์ไปร่อนหาทองจนทำให้ทางนายอำเภอเมือง ต้องทำการสั่งปิดพื้นที่ เนื่องจากเกรงจะเกิดการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 และเข้าข่ายกระทำความผิด พ.ร.บ.แร่ 

คดีพลิก หนุ่มราชบุรี สารภาพกุเรื่องร่อนเจอทอง ทำไปเพราะอยากดัง

ล่าสุดเมื่อวันที่ 27 ม.ค.64 นายกรภัทร ได้ออกมายอมรับความจริงว่า ตนเองไม่ได้เป็นครูอย่างที่เคยบอก แต่เป็นแค่พ่อค้าขายพระเครื่องและของแปลกตามตลาดนัด โดยทั้งหมดตนเองเป็นคนกุเรื่องขึ้นมา แต่มีคนอยู่เบื้องหลัง ซึ่งความจริงแล้วทองที่ตนนำเอามาโชว์ เป็นทองที่ตนหามาได้จริงๆ ในคลองชลประทานดอนแจง โดยเมื่อวันที่ 9 ม.ค.ที่ผ่านมา ตนได้ไปหาหอยที่คลองดังกล่าว แต่เผอิญเหลือบไปเห็นที่ทองคำ เลยหยิบขึ้นมาดู ปรากฏว่าเป็นทองจริงๆ เลยตัดสินใจกลับไปที่บ้านแล้วไปเอาเครื่องตรวจจับโลหะมาค้นหา ปรากฏว่าไปเจอพวกเศษทองรูปพรรณเพิ่มอีกหลายเม็ดเลยนำกลับมาที่บ้านแล้วถ่ายรูปเก็บไว้ หลังจากนั้นวันที่ 15 ม.ค. 64 จึงนำรูปดังกล่าวโพสต์ลงเฟซบุ๊กส่วนตัว และปรากฏเป็นข่าว จึงทำให้ชาวบ้านหลายคนแห่ไปร่อนทองที่คลองชลประทาน

คดีพลิก หนุ่มราชบุรี สารภาพกุเรื่องร่อนเจอทอง ทำไปเพราะอยากดัง

ส่วนกรณีที่ชาวบ้านเจอพระเครื่องในคลอง ตนเองยอมรับว่า เป็นคนเอาพระกับเหรียญเก่าๆ ไปโยนไว้ในคลอง เพียงแค่หวังว่าหากชาวบ้านไปเจอจะได้มีความชื่นใจ โดยหลังจากที่ตนนำเรื่องราวไปโพสต์ก็มีบุคคลคนหนึ่งในจังหวัดราชบุรีที่อ้างตัวเองว่าเป็นผู้สื่อข่าวประจำจังหวัดช่องหนึ่งติดต่อเข้ามาทันที โดยผู้สื่อข่าวคนนี้เข้ามาบอกให้ตนสร้างเรื่องราวโดยให้โกหกว่า มีคนขับสิบล้อมาชี้จุดให้ก่อนจะลงไปเจอทอง เพื่อที่จะได้สร้างความน่าเชื่อถือ พร้อมทั้งพาตนไปออกรายการข่าว แต่ปรากฏว่าสุดท้ายถูกนักข่าวคนนี้ โกงค่าตัวเขาไป 1 หมื่นบาท จึงทำให้ตัดสินใจออกมายอมรับความจริง พร้อมกับขอโทษชาวราชบุรี และทุกคนที่แห่กันไปร่อนทอง รวมทั้งขอโทษส่วนราชการทุกส่วนที่ทำให้เดือดร้อน ไม่ได้มีเจตนาหลอกลวงใครเกิดจากการรู้เท่าไม่ถึงการณ์

ขณะที่นายทศพล เผื่อนอุดม นายอำเภอเมืองราชบุรี กล่าวว่าได้รับทราบคำสารภาพจากนายบีแล้ว ส่วนจะเข้าข่ายผิดพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์หรือไม่ ต้องมาดูลายละเอียดอีกที ซึ่งก็คงจะเป็นหน้าที่ของตำรวจ ตนได้ประสานให้ทำการสืบสวนเพื่อหาข้อเท็จจริงแล้วหากถ้าพบว่ามีผู้ใดเสียหายก็สามารถร้องทุกข์กล่าวโทษกับพนักงานสอบสวนเพื่อให้ดำเนินคดีได้ ส่วนในพื้นที่ตอนนี้คนลดน้อยลงแล้ว ซึ่งเมื่อคนรู้ความจริงแล้วเหตุการณ์ก็น่าจะเข้าสู่สภาวะปกติ


ส่วนในเรื่องของการยุยงปลุกปั่นนั้นจะต้องดูองค์ประกอบของความผิดว่าจะเข้าลักษณะว่าไปทำให้ผู้ใดเสียหายหรือไม่ และตัวผู้ที่ให้ข่าวนั้นได้รับประโยชน์อะไร มีใครไปเกี่ยวข้อง ซึ่งทั้งหมดเป็นหน้าที่ของตำรวจที่ต้องสอบสวนเพื่อให้ข้อเท็จจริงปรากฎ และไม่ให้เป็นแบบอย่างกับผู้อื่น

Thailand Web Stat