“โตโยต้าญี่ปุ่น” ขึ้นค่าแรงให้แก่พนักงานครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 2 ทศวรรษ !
“โตโยต้า มอเตอร์” โตโยต้ามอเตอร์ประเทศญี่ปุ่น ยอมรับข้อเรียกร้องของสหภาพแรงงานในการปรับขึ้นค่าจ้างครั้งใหญ่สุดในรอบ 2 ทศวรรษ หลังจากที่พบกับปัญหาเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งทำให้ธนาคารกลางญี่ปุ่น หรือบีโอเจ ปรับเปลี่ยนนโยบายครั้งสำคัญในสัปดาห์หน้า
“โตโยต้าญี่ปุ่น” ขึ้นค่าแรงให้แก่พนักงานครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 2 ทศวรรษ !
วันที่ 23 กุมภาพันธ์ สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่า โตโยต้า มอเตอร์ คอร์ป ผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ที่สุดของโลก ยอมรับข้อเรียกร้องของสหภาพแรงงานในการขึ้นฐานเงินเดือนครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 20 ปี และพร้อมจ่ายโบนัสที่เพิ่มขึ้นด้วย
“โคจิ ซาโต” ประธานโตโยต้าคนใหม่ กล่าวว่า การตัดสินใจยอมรับข้อเรียกร้องของสหภาพทั้งหมดในการเจรจารอบแรกนั้นไม่ได้หมายถึงเฉพาะโตโยต้าเท่านั้น แต่รวมถึงอุตสาหกรรมโดยรวมด้วย และหวังว่าจะนำไปสู่การหารืออย่างตรงไปตรงมาระหว่าง แรงงานและการจัดการในแต่ละบริษัท
รายงานข่าวแจ้งอีกว่า โตโยต้าได้ตกลงตามข้อเรียกร้องของสหภาพแรงงานสำหรับการเพิ่มค่าจ้าง 5% จากฐานเงินเดือนเฉลี่ยต่อเดือนที่เพิ่มขึ้นที่ 12,500 เยน หรือราว ๆ 92 เหรียญสหรัฐ ทั้งนี้โตโยต้าและสหพันธ์สหภาพแรงงานซึ่งเป็นตัวแทนของพนักงานกลุ่มโตโยต้า 357,000 คนกล่าวว่า ค่าจ้างพื้นฐานที่เพิ่มขึ้นนั้นสูงที่สุดในรอบ 2 ทศวรรษ ด้วยอัตราเงินเฟ้อประมาณ 4% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 40 ปีหลังจากภาวะเงินฝืดหลายทศวรรษ
ทั้งนี้นักวิเคราะห์กล่าวว่า การขึ้นค่าจ้างจะยังคงจำกัดเฉพาะบริษัทขนาดใหญ่ เช่น โตโยต้า ขณะที่บริษัทขนาดเล็กและขนาดกลางซึ่งจ้างคนงานชาวญี่ปุ่นส่วนใหญ่จะประสบปัญหาในการขึ้นค่าจ้าง และการปรับขึ้นค่าจ้างครั้งนี้จะมีผลกับพนักงานพาร์ตไทม์และพนักงานสัญญาจ้างอาวุโสด้วย และบริษัทตกลงกับคำขอของสหภาพแรงงานในการจ่ายโบนัสแบบจ่ายครั้งเดียวมูลค่า 6.7 เดือนของค่าจ้าง
ด้านสหพันธ์สหภาพแรงงานโตโยต้า กล่าวว่า ข้อตกลงการจ่ายเงินดังกล่าวมีขึ้นในขณะที่นายกรัฐมนตรีฟูมิโอะ คิชิดะ ได้ยกระดับการเรียกร้องให้ผู้นำธุรกิจเร่งขึ้นค่าจ้าง โดยเตือนถึงการกลับสู่สภาวะเงินเฟ้อ หากการขึ้นค่าจ้างไม่เป็นไปตามราคาสินค้าที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
ทั้งนี้ ข้อมูลจากสมาพันธ์สหภาพแรงงานญี่ปุ่น (Rengo) เปิดเผยว่า แรงงานในบริษัทยักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่นได้เรียกร้องให้มีการขึ้นค่าแรง 5.85 เปอร์เซ็นต์ต่อปี ซึ่งหากบรรลุข้อตกลง จะเป็นการขึ้นค่าแรงที่สูงกว่าระดับ 5 เปอร์เซ็นต์เป็นครั้งแรกในรอบ 31 ปี