เหตุผล ทำไมถึงไม่ควร “โปะค่างวดรถยนต์” โดยไม่จำเป็น
หนี้รถยนต์จะไม่ยาวนานเหมือนกับหนี้บ้าน แต่ก็กินระยะเวลาหลายปีเช่นเดียวกัน ซึ่งส่งผลให้หลายคนมีความคิดว่าจะรีบโปะค่างวดให้ผ่อนหมดไวขึ้นดีไหม จะเชื่อว่าห้หนี้หมดได้เร็วขึ้นจริงหรือเปล่า? เราไปพิสูจน์พร้อมๆกัน
เหตุผล ทำไมถึงไม่ควร “โปะค่างวดรถยนต์” โดยไม่จำเป็น
เริ่มเเรกเราไปทำความเข้าใจก่อนกว่าสินเชื่อรถยนต์เป็นดอกเบี้ยแบบคงที่ (Flat Rate) ตลอดอายุสัญญา ต่างจากสินเชื่อบ้านที่ใช้ดอกเบี้ยแบบลดต้นลดดอก (Effective Rate) ส่งผลให้ค่างวดและดอกเบี้ยของสินเชื่อรถยนต์จึงตายตัวเท่ากันตลอดอายุสัญญา
ทั้งนี้ การโปะค่างวดรถยนต์จึงไม่ทำให้ดอกเบี้ยลดลงเหมือนกับค่างวดบ้านแต่อย่างใด เพราะสุดท้ายแล้วจำนวนเงินรวมที่ชำระในวันครบสัญญาก็ยังคงเท่ากันอยู่ดี ซึ่งทางที่ดีที่สุุดหากต้องการจบหนี้ให้ได้ประโยชน์สูงสุด แนะนำให้ชำระค่างวดตามปกติโดยไม่จำเป็นต้องโปะเพิ่ม เมื่อถึงเวลาที่ลูกหนี้สามารถแจ้งปิดบัญชีค่างวดรถที่เหลือทั้งหมดได้ ให้แจ้งความประสงค์ขอปิดบัญชีกับธนาคารหรือไฟแนนซ์ จากนั้นบริษัทฯ จะคำนวณส่วนลดดอกเบี้ยจากค่างวดที่ยังไม่ถึงกำหนดชำระให้ ซึ่งวิธีนี้อาจเซฟเงินได้สูงถึงหลักหมื่นบาทขึ้นอยู่กับยอดหนี้ที่เหลือ
สินเชื่อรถยนต์มีกี่ประเภท มีแบบไหนบ้าง?
สินเชื่อรถยนต์แบ่งออกได้เป็น 2 ประเภท สินเชื่อรถยนต์ทั้งสองประเภทนี้ล้วนมีความแตกต่างของจุดประสงค์กันโดยสิ้นเชิง ลองมาทำความเข้าใจว่าเรานั้นมีความต้องการแบบไหนก่อนการขอสินเชื่อรถยนต์
สินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์
สินเชื่อเช่ารถยนต์เป็นทางเลือกสำหรับคนที่ต้องการออกรถยนต์คันใหม่ หรือกำลังวางแผนในการเปลี่ยนรถยนต์คันใหม่ แต่ไม่มีเงินก้อนเพียงพอในการชำระดาวน์ ในกรณีสามารถขอสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์เพื่อทำการดาวน์ด้วยเงินจำนวนหนึ่ง และชำระส่วนที่เหลือเป็นงวดๆ ไปโดยไม่จำเป็นต้องชำระเต็มเป็นเงินก้อนในรอบเดียว
สำหรับสินเชื่อรถยนต์ประเภทนี้ จำเป็นจะต้องทำสัญญาซื้อ-ขายรถยนต์ระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย เช่น โชว์รูมรถ หรือเต็นท์รถมือสอง โดยมีสถาบันทางการเงิน หรือไฟแนนซ์ ลีสซิ่งเป็นคนกลางในการชำระค่ารถยนต์เป็นจำนวนเต็มแทนผู้ซื้อ โดยผู้ซื้อจะต้องทำการผ่อนชำระเงินกู้ผ่านทางสถาบันทางการเงิน หรือไฟแนนซ์ ลีสซิ่งนั้นให้ครบถ้วนตามจำนวนที่กำหนดตามที่มีระบุไว้ในสัญญา จึงจะได้กรรมสิทธิ์ในการเป็นเจ้าของรถยนต์มาเป็นของเราเมื่อชำระสินเชื่อรถยนต์ครบถ้วนตามจำนวนงวดทั้งหมดแล้ว
สินเชื่อไฟแนนซ์
สินเชื่อรถยนต์ไฟแนนซ์นี้มีความแตกต่างจากสินเชื่อรถยนต์ประเภทแรก เพราะสินเชื่อประเภทนี้เป็นสินเชื่อสำหรับคนที่มีรถยนต์อยู่แล้ว และมีความจำเป็นที่ต้องใช้เงิน มีความต้องการเงินสด เงินด่วนเพื่อรับมือในกรณีที่มีความจำเป็นต้องใช้จ่ายแบบฉุกเฉิน เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน หรือมีความต้องการใช้เงินก้อนเพื่อทำการขยับขยายธุรกิจเพิ่มเติม
สินเชื่อประเภทไฟแนนซ์เป็นการนำรถยนต์ที่เรามีไปจำนองกับบริษัทไฟแนนซ์ สถาบันทางการเงิน หรือผู้ให้บริการด้านสินเชื่อรถยนต์ เพื่อใช้รถยนต์เป็นหลักทรัพย์ในการค้ำประกันเพื่อทำเรื่องกู้ยืมเงินสด หลังจากนั้นเราสามารถทำการผ่อนชำระเงินสินเชื่อที่ได้รับไว้เป็นงวดๆ กับสถาบันทางการเงิน หรือผู้ให้บริการตามที่ได้ทำสัญญาไว้ ซึ่งโดยทั่วไปรถยนต์จำเป็นจะต้องมีสภาพปลอดหนี้ เรียกว่าทำการผ่อนหมดแล้ว หรือในบางไฟแนนซ์ก็สามารถทำการยื่นกู้ได้สำหรับรถยนต์ที่ยังคงค้างหนี้ และมีการชำระหนี้ได้เกินครึ่งหนึ่งของยอดหนี้ทั้งหมด เพื่อทำการปิดหนี้ก็สามารถทำได้เช่นกัน โดยมีการพิจารณาจำนวนเงินกู้จากสภาพของรถยนต์ ยี่ห้อ รุ่น จำนวนปี รวมถึงการพิจารณาในจุดอื่นๆ ร่วมด้วย ซึ่งจะทำให้รถยนต์แต่ละคันได้จำนวนยอดเงินกู้ที่แตกต่างกัน สำหรับการขอสินเชื่อรถยนต์ประเภทนี้สามารถช่วยให้เราจัดการกับความต้องการต่างๆ อย่างง่ายดายและสะดวกสบาย เนื่องจากมีรถยนต์เป็นทรัพย์สินในการค้ำประกัน นอกจากนี้ยังให้ผู้กู้เกิดความคล่องตัวทางการเงินได้เพิ่มขึ้นอีกด้วย
สรุปได้ว่าระหว่างที่ชำระสินเชื่อรถยนต์ หากลูกหนี้มีรายได้เพิ่มขึ้น หรือได้รับเงินก้อนใหญ่ ก็ควรเก็บสะสมเงินดังกล่าวเพื่อใช้ชำระหนี้ที่เหลือในคราวเดียว จะช่วยให้ยอดหนี้ลดลงได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่าการโปะเพิ่มในแต่ละเดือน