3 ขั้นตอนปลูกผักสวนครัวในบ้านฉบับมือใหม่ พื้นที่น้อยไม่ใช่ปัญหา

10 พฤษภาคม 2566
86

3 ขั้นตอนปลูกผักสวนครัวในบ้านฉบับมือใหม่ ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในยุคผักแพง ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ แถมได้ผักสะอาดปลอดภัยจากสารเคมี

ช่วงนี้หันไปทางไหนก็มีแต่ของขึ้นราคา ทั้ง หมู เห็ด เป็ด ไก่ และพืชผักต่างๆ โดยเฉพาะพืชผักที่มีราคาเฉลี่ยเพิ่มขึ้นมาจากราคาเดิมตลอดในทุกๆปี  "การปลูกผักสวนครัว" ไว้กินเอง จึงเป็นอีกหนึ่งทางเลือกในการแก้ไขปัญหาดังกล่าว ซึ่งนอกจากจะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในบ้านแล้ว ยังเป็นการใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ แถมยังได้ผักปลอดสารพิษไว้กินเองอีกด้วย  
 

3 ขั้นตอนปลูกผักสวนครัวในบ้านฉบับมือใหม่ พื้นที่น้อยไม่ใช่ปัญหา

3 ขั้นตอนง่าย ๆ สำหรับมือใหม่ที่กำลังจะเริ่มต้นปลูกผักสวนครัวไว้กินเองที่บ้าน 

1. เลือกขนาดแปลงปลูกผักสวนครัวที่เหมาะสม
สำหรับผู้ที่ซื้อบ้านเดี่ยว หรือซื้อทาวน์เฮ้าส์/ทาวน์โฮม แล้วมีพื้นที่เหลือไม่ว่าจะเป็นฝั่งหน้าบ้าน ข้างบ้าน หรือหลังบ้าน แล้วตกลงปลงใจจะปลูกผักสวนครัวไว้กินเอง อันดับแรกที่ต้องคำนึงถึงคือ การเลือกขนาดแปลงหรือมองหาพื้นที่ในบ้านเพื่อปลูกผักสวนครัว  หากไม่เคยปลูกอะไรมาก่อนแนะนำให้เริ่มต้นด้วยแปลงปลูกผักสวนครัวขนาดเล็ก โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่ยังไม่เคยมีประสบการณ์การปลูกผักสวนครัวมาก่อน เพราะการปลูกผักสวนครัวนั้นจำเป็นต้องดูแลอย่างดี และจะปลูกผักให้งอกงามจนนำมาใช้ประโยชน์ได้ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย ทั้งนี้ ขนาดของแปลงปลูกผักสวนครัวที่แนะนำคือ เริ่มต้นประมาณ 16x10 ฟุต

2. เลือกตำแหน่งแปลงปลูกผักสวนครัวควรให้เหมาะสม
สิ่งต่อมาที่ควรคำนึงถึงคือการเลือกตำแหน่งของแปลงปลูกผักสวนครัว ควรเลือกปลูกในสถานที่ที่มีแสงแดดส่องมาถึงแปลงผักตลอดทั้งวัน โดยปกติผักสวนครัวส่วนใหญ่ต้องการแสงแดดในการเจริญเติบโตกว่า 6 ชั่วโมงต่อวัน ซึ่งช่วยให้ผักสวนครัวเติบโตได้ดี ให้รสชาติที่อร่อย  ตำแหน่งแปลงปลูกผักสวนครัวที่แนะนำคือ หลังบ้านหรือหน้าบ้าน ไม่แนะนำให้ตั้งอยู่บริเวณข้างบ้านเพราะจะมีตัวบ้านและรั้วบ้านเป็นตัวกันแดด ที่สำคัญแปลงผักควรตั้งอยู่ในแนวที่หันไปทางทิศเหนือและใต้ ซึ่งเป็นทิศที่มีแสงแดดส่องผ่านทั้งวัน เพื่อให้ได้รับประโยชน์จากแสงอาทิตย์อย่างเต็มที่


3. การเตรียมดินและการเลือกปลูกผักสวนครัว
อีกหนึ่งสิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้ในการปลูกผักสวนครัวก็คือ การเตรียมดิน ซึ่งผักสวนครัวส่วนใหญ่นั้นจะเป็นพืชที่ต้องปลูกในดินที่ดีมีความร่วนซุย รากของดินสามารถทะลุผ่านดินได้ง่าย ดังนั้นดินที่ใช้ในการปลูกผักสวนครัวควรมีการเติมปุ๋ยเพื่อเพิ่มสารอาหารให้กับดิน รวมไปถึงแปลงผักที่มีการระบายน้ำที่เหมาะสม เพื่อให้มั่นใจว่าแปลงผักสวนครัวนั้นจะไม่สะสมน้ำไว้ในดินเกินไป โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศไทยที่มีฝนตกชุกแล้ว นอกจากจะต้องมีการวางแผนเรื่องดินให้ดีแล้วยังต้องคิดถึงเรื่องพันธุ์ของพืชผักสวนครัวด้วย โดยขอแนะนำสำหรับมือใหม่ที่อยากได้พันธุ์พืชที่สามารถปลูกได้ง่าย ได้แก่ กะเพรา คะน้า บวบ โหระพา มะระ ตะไคร้ พริก มะเขือเทศ และตำลึง ยกตัวอย่างการปลูกดังนี้
– กะเพรา
โรยเมล็ดทิ้งไว้ 7-10 วัน ในดินร่วนซุย และระบายน้ำได้ดี หากโตเบียดกันแน่นเกินไปควรถอนแยกเพื่อให้ต้นโตเป็นพุ่ม และควรเด็ดใบมาปรุงอาหารบ่อย ๆ เพื่อให้ต้นไม่ผลิดอก ติดเมล็ด หรือต้นโทรมเร็วเกินไป
– พริก
หยอดเมล็ดลงในดินร่วนซุยและระบายน้ำได้ดี ประมาณ 7 วัน ต้นกล้าจะเริ่มงอก แล้วจึงแยกนำมาปลูกในภาชนะ หรือแปลง ควรเว้นระยะห่างของต้นประมาณ 50-60 เซนติเมตร ข้อควรระวังคืออย่าให้ดินแฉะเกินไป เพราะต้นอาจตายได้
– ตะไคร้
นำต้นที่ตัดใบปักชำในดินร่วนซุย โดยปลูกในดินลึกไม่น้อยกว่า 30 เซนติเมตร ในพื้นที่ที่มีแสงแดดครึ่งวัน หลังจากนั้นประมาณ 1-2 สัปดาห์ จะเริ่มแตกรากผลิใบ


ขอบคุณข้อมูล : DDproperty