ไทยวิถีวันนี้ว่าด้วยเรื่องของ นกกระทา เลี้ยงง่ายขายคล่อง นกกระทาเป็นสัตว์ปีกที่เลี้ยงง่าย ใช้พื้นที่น้อย โตเร็ว ให้ผลผลิตทั้งไข่และเนื้อที่เป็นที่ต้องการของตลาด การเลี้ยงนกกระทาสามารถทำเป็นอาชีพหลักหรือเสริมได้ เหมาะสำหรับทั้งผู้ที่มีพื้นที่เลี้ยงขนาดเล็กและฟาร์มขนาดใหญ่
นกกระทา เลี้ยงง่ายขายคล่อง ต้นทุนต่ำ คืนทุนไว กำไรดี
นกกระทา เลี้ยงง่ายขายคล่อง ต้นทุนต่ำ คืนทุนไว กำไรดี
ประเภทของนกกระทาที่นิยมเลี้ยง
นกกระทาไข่ – ออกไข่จำนวนมาก นิยมเลี้ยงเพื่อขายไข่
นกกระทาเนื้อ – ขนาดใหญ่กว่า ให้เนื้อมาก นิยมบริโภค
นกกระทาสวยงาม – เช่น นกกระทาญี่ปุ่น เลี้ยงเพื่อความสวยงาม
วิธีการเลี้ยงนกกระทา
เตรียมโรงเรียนที่มีหลังคาป้องกันแดด และมีระบบระบายอากาศได้ดี
กรงเลี้ยงสามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภท ก็คือ
1.แบบซ้อนชั้น เหมาะกับการเลี้ยงเป็นจำนวนมากและใช้พื้นที่น้อย
2.แบบพื้นราบ คือการเลี้ยงในโรงเรือนที่ขนาดใหญ่และปล่อยให้นกได้เดินอิสระ
นกกระทา เลี้ยงง่ายขายคล่อง ต้นทุนต่ำ คืนทุนไว กำไรดี
การดูแลสุขภาพและการป้องกันโรค
-รักษาความสะอาดของโรงเรือนและอุปกรณ์อาหาร
-แยกนกปล่อยออกจากฝูง
-ฉีดวัคซีนป้องกันโรคเช่นโรคนิวคาสเซิล
-ควบคุมความชื้นไม่ให้สูงเกินไป
การเก็บผลผลิตและการตลาด
- นกกระทาไข่ เริ่มออกไข่เมื่ออายุ 5 - 6 สัปดาห์ สามารถออกขายได้ทุกวัน วันละฟอง อายการให้ใครของนกกระทาอยู่ที่ 1 ปี แต่จากนั้นผลผลิตจะลดลง
- นกกระทาเนื้อ นกกระทาเนื้อขายได้เมื่ออายุ 5 - 6 สัปดาห์ น้ำหนักเฉลี่ยของนกกระทาอยู่ที่ 150 - 200 กรัม ตลาดนกกระทาสามารถเติบโตได้ดีในร้านอาหารและตลาดสด
ข้อดีของการเลี้ยงนกกระทา
โตเร็ว คืนทุนไว – เริ่มขายได้ใน 5-6 สัปดาห์
ใช้พื้นที่น้อย – เหมาะกับฟาร์มขนาดเล็ก
มีตลาดรองรับ – ไข่และเนื้อเป็นที่ต้องการ
ต้นทุนต่ำ กำไรดี
#นกกระทา #เลี้ยงนกกระทา #เลี้ยงสัตว์เกษตร #ไทยวิถี