แก้ว 4 ชนิดใกล้ตัว อาจเป็นสาเหตุให้คุณป่วย
ระวังภัยเงียบ! แก้ว 4 ชนิดใกล้ตัว อาจเป็นสาเหตุให้คุณป่วยได้ แก้วน้ำที่เราใช้ประจำอาจซ่อนอันตรายเอาไว้? การเลือกใช้แก้วน้ำที่ไม่เหมาะสม อาจนำพาสารพิษเข้าสู่ร่างกายโดยไม่รู้ตัว
แก้ว 4 ชนิด ห้ามใช้ ทุกวันเราใช้แก้วน้ำเป็นสิ่งของที่ใกล้ตัวที่สุด แต่รู้หรือไม่ว่า แก้วน้ำที่เราใช้ประจำอาจซ่อนอันตรายเอาไว้? การเลือกใช้แก้วน้ำ ที่ไม่เหมาะสม อาจนำพาสารพิษเข้าสู่ร่างกายโดยไม่รู้ตัว ซึ่งอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพในระยะยาว บทความนี้จะพาคุณไปเปิดเผยความจริงเกี่ยวกับแก้ว 4 ชนิดที่คุณควรระวัง
ระวังภัยเงียบ แก้ว 4 ชนิด คิดว่าการดื่มน้ำจากแก้วเป็นเรื่องง่ายๆ ใช่ไหม? แต่รู้หรือไม่ว่า การเลือกแก้วน้ำเพียงใบเดียว อาจส่งผลต่อสุขภาพของคุณได้อย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อนำมาใช้อุ่นเครื่องดื่มร้อน บทความนี้จะเผยให้เห็นถึงอันตรายที่ซ่อนอยู่ในแก้วน้ำที่เราใช้กันอยู่ทุกวัน และวิธีการเลือกแก้วน้ำที่ปลอดภัยต่อสุขภาพ
1.แก้วหรือขวดพลาสติกที่ไม่ทราบแหล่งที่มา
แก้วหรือขวดพลาสติกเป็นประเภทที่พบได้บ่อยที่สุด แต่ก็มีความเสี่ยงสูง ในตลาดมีผลิตภัณฑ์พลาสติกจำนวนมากที่ไม่มีฉลากหรือแหล่งที่มาชัดเจน แม้กระทั่งในห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ แก้วประเภทนี้เมื่อสัมผัสกับน้ำร้อนจะปล่อยสารพิษที่เป็นอันตรายต่อร่างกายผู้ใช้
ดังนั้นเมื่อซื้อแก้วหรือขวดพลาสติก ควรใส่ใจถึงหมายเลขในรูปสามเหลี่ยมที่ฐาน โดยแต่ละหมายเลขจะแทนวัสดุที่แตกต่างกัน
- หมายเลข 1 (PET): ใช้สำหรับแบบใช้ครั้งเดียว ทิ้งหลังจากดื่มเสร็จ
- หมายเลข 2 (HDPE): ทนทานและไม่เป็นอันตราย ทนความร้อนได้ดี แต่ไม่ควรใช้สำหรับอาหารร้อน ควรใช้สำหรับของเย็น
- หมายเลข 3 (PVC): ไม่ควรใช้สำหรับใส่น้ำร้อนโดยเด็ดขาด
- หมายเลข 4 (PE): ไม่เพียงแต่ไม่ควรใช้ใส่น้ำร้อน แต่ยังไม่ควรนำไปใส่ในไมโครเวฟ
- หมายเลข 5 (PP): ทนความร้อนได้สูง ปลอดภัยสำหรับอาหารร้อนและสามารถใช้ในไมโครเวฟได้
- หมายเลข 6 (PS): ควรหลีกเลี่ยงการใช้งานประเภทนี้
- หมายเลข 7 (อื่น ๆ): เป็นพลาสติกที่ไม่อยู่ในกลุ่มอื่น ๆ อาจมี BPA ไม่ทั้งหมดปลอดภัย จึงต้องตรวจสอบแหล่งที่มาให้ชัดเจน ความทนทานต่อความร้อนแตกต่างกัน ควรหลีกเลี่ยงการใช้สำหรับอาหารร้อน
โดยรวมแล้วควรเลือกหมายเลข 5, 7 หรือแก้วที่ระบุวัสดุ Tritan, PP และ PPSU เพราะเป็นประเภทที่ปลอดภัย ส่วนประเภทที่มีหมายเลข 1, 2, 3, 4 และ 6 ควรหลีกเลี่ยงการซื้อ หากฐานของผลิตภัณฑ์ไม่มีสัญลักษณ์ใด ๆ ก็ควรหลีกเลี่ยงเช่นกัน
2. แก้วใส
แก้วใสแจ๋วที่เราใช้ดื่มน้ำทุกวันนั้น อาจซ่อนเร้นอันตรายเอาไว้ โดยเฉพาะแก้วประเภทโซเดียม-แคลเซียม ซึ่งมีจุดอ่อนอยู่ที่ความทนทานต่อความร้อนที่ต่ำ หากเทน้ำร้อนลงไป อาจเกิดการแตกหักได้อย่างไม่คาดคิด ส่งผลให้เกิดเศษแก้วกระเด็นและอาจก่อให้เกิดอันตรายได้ ดังนั้นเพื่อความปลอดภัย ควรเลือกใช้แก้วที่มีคุณภาพและมีความทนทานต่อความร้อนสูง
นอกจากนี้ แก้วน้ำคริสตัล ที่ถูกมองว่ามีรูปลักษณ์ที่สวยงามและหรูหรา แต่ก็มีความเสี่ยงมากมาย เนื่องจากอาจมีสารตะกั่วหรือสารเคมีที่เป็นอันตราย
หากคุณชอบแก้วใส ควรพิจารณาเลือกแก้วน้ำที่ทำจากโบโรซิลิเกต โดยมีลักษณะเด่นคือ เบา โปร่งใส และไม่เป็นอันตราย แก้วนี้สามารถทนต่อการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิที่สูงมาก (สูงกว่า 110℃) ไม่แตกหักง่ายเมื่อเผชิญกับอุณหภูมิสูงและเย็น และเมื่อแตกจะมีชิ้นส่วนใหญ่ทำให้ทำความสะอาดง่าย ลดความเสี่ยงในการทำให้มือได้รับบาดเจ็บ
3. แก้วกระดาษใช้แล้วทิ้ง
แก้วชนิดนี้คนมักใช้เพื่อความสะดวกสบาย โดยเฉพาะเมื่อมีแขกมาเยอะหรืองานเลี้ยงใหญ่ แต่แก้วนี้ก็มีความเสี่ยงหลายอย่าง เพราะแก้วกระดาษบางชนิดมีสารฟอกขาวแบบฟลูออเรสเซนต์ ซึ่งเมื่อเจอกับอุณหภูมิสูงอาจละลายเข้ากับน้ำ ทำให้เกิดความเสี่ยงต่อการเป็นพิษหากใช้งานในระยะยาว
นอกจากนี้ แก้วกระดาษใช้แล้วทิ้งยังมีชั้นพลาสติกด้านในเพื่อป้องกันการรั่วซึม แต่เมื่อเจอน้ำร้อนอาจปล่อยไมโครพลาสติกออกมาในน้ำ ไมโครพลาสติกสามารถเข้าสู่ร่างกาย และเปลี่ยนแปลงการเผาผลาญของแบคทีเรียในลำไส้ ส่งผลกระทบต่อระบบภูมิคุ้มกัน
บางอันยังมีการพิมพ์ลวดลายที่สวยงาม แต่หมึกพิมพ์มักมีสารเคมีอันตราย เมื่อดื่มน้ำ สารเหล่านี้อาจสัมผัสกับริมฝีปากและเข้าสู่ร่างกาย ทำให้มีผลกระทบต่อสุขภาพในระยะยาว ดังนั้นควรใช้แก้วกระดาษเฉพาะในโอกาสจำเป็น และลดการใช้บ่อย ๆ เพื่อปกป้องสุขภาพของตนเอง
4. แก้วสแตนเลสคุณภาพต่ำ
แก้วเก็บอุณหภูมิเป็นของที่ใครหลายคนมี แต่ไม่ใช่ทุกใบที่ปลอดภัย บางใบทำจากสแตนเลสคุณภาพต่ำ ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพ
แก้วเหล่านี้มักใช้สแตนเลสประเภท 201 และ 202 ที่เกิดสนิมได้ง่าย และสามารถปล่อยโลหะหนักเมื่อสัมผัสกับน้ำร้อน ทำให้เกิดผลเสียต่อสุขภาพ หากคุณใช้ถ้วยนี้ดื่มน้ำบ่อย ๆ อาจประสบปัญหาวิงเวียนศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน หรืออาการนอนไม่หลับ
เพื่อความปลอดภัย ควรเลือกถ้วยเก็บอุณหภูมิประเภท 316 ซึ่งเป็นสแตนเลสทางการแพทย์ ปลอดภัยกว่า นอกจากนี้ ยังสามารถเลือกประเภท 304 ซึ่งเป็นสแตนเลสอาหาร ก็ยังถือว่าค่อนข้างปลอดภัย แต่ควรหลีกเลี่ยงประเภท 201 และ 202 ที่เป็นสแตนเลสคุณภาพต่ำ