เตือนเลย ใครบ้างห้ามกิน "ทุเรียน" ถึงจะอร่อยแต่ต้องอดใจไว้
ทุเรียน ผลไม้แสนอร่อย ฉายาราชาผลไม้ รสชาติหวานละมุนกินยังไงก็ไม่พอ แต่รู้ไหมว่ามีกลุ่มคนที่ต้องเลี่ยง ไปดูกันใครบ้างห้ามกินทุเรียน
ทุเรียน ได้ชื่อว่าเป็นราชาผลไม้ แม้มีกลิ่นเฉพาะตัวที่หลายๆคนร้องหยี แต่ก็เป็นผลไม้ของโปรดใครอีกหลายๆคน แต่รู้ไหมว่าทุเรียนแม้เป็นผลไม้แต่ก็ใช่ว่าทุกคนจะกินได้ ไม่ใช่เพราะกลิ่นหรือรสชาติแต่เป็นเพราะโรคประจำตัวเหล่านี้ที่ทำให้ต้องเลี่ยงการกินทุเรียน ไม่งั้นอาจส่งผลเสียกับโรคได้
ทางทำกิน มีคำตอบมาให้แล้ว ใครบ้างห้ามกินทุเรียน หรือควรเลี่ยงกินน้อยๆนานๆที
ก่อนอื่นไปรู้จักกับทุเรียน ราชาผลไม้กันก่อน ทุเรียนเป็นผลไม้ที่มีกลิ่นเฉพาะตัว ซึ่งเป็นส่วนผสมของสารระเหยที่ประกอบไปด้วยเอสเทอร์ คีโตน และสารประกอบกำมะถัน
ทุเรียนมีรสชาติหวาน ภายในเนื้อทุเรียนอุดมไปด้วยสารอาหารสำคัญหลากหลายชนิด คุณค่าทางโภชนาการของเนื้อทุเรียนต่อ 100 กรัม
พลังงาน 174 กิโลแคลอรี่ คาร์โบไฮเดรต 27.09 กรัม เส้นใย 3.8 กรัม ไขมัน 5.33 กรัม โปรตีน 1.47 กรัม วิตามินเอ วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 วิตามินบี 3 วิตามินบี 5 วิตามินบี 6 วิตามินบี 9 วิตามินซี แคลเซียม ธาตุเหล็ก แมกนีเซียม แมงกานีส ฟอสฟอรัส โพแทสเซียม โซเดียม สังกะสี
ใครบ้างห้ามกินทุเรียน
1.ผู้ป่วยโรคเบาหวาน
เพราะในทุเรียนให้น้ำตาล ไขมัน และพลังงานสูง ผู้ป่วยที่เป็นโรคเบาหวานกินทุเรียนเข้าไป อาจทำให้มีอาการน้ำตาลในเลือดสูงขึ้นอย่างรวดเร็วเกินไป ส่งผลให้เจ็บป่วยไม่สบายตัวหรือร้อนใน และอาจเป็นอันตรายถึงภาวะช็อกได้
2. ผู้ป่วยโรคความดันโลหิตสูง
เพราะทุเรียนมีฤทธิ์ร้อนจึงไม่ควรรับประทานในปริมาณมาก จะทำให้ความดันสูงขึ้นจนอาจเป็นอันตรายแก่ร่างกาย
3. ผู้ป่วยโรคไตและโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ
ทุเรียนเป็นผลไม้ที่มีโพแทสเซียมสูง ผู้ป่วยโรคไตร่างกายจะขับโพแทสเซียมออกได้ไม่ดี ซึ่งถ้ามีการสะสมของโพแทสเซียมปริมาณมาก จะส่งผลให้เกิดภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ
4.ผู้ที่ต้องการคุมปริมาณน้ำตาลและไขมันในเลือด
เพราะทุเรียนจัดเป็นผลไม้ที่ให้น้ำตาล ไขมัน และมีพลังงานสูง ดังนั้นจึงควรระมัดระวังในการกินทุเรียน ทั้งทุเรียนสดและทุเรียนแปรรูป และควรปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์