4 โรคหน้าร้อน อันตรายถึงชีวิต ต้องระวังให้ดี

4 โรคหน้าร้อน อันตรายถึงชีวิตต้องระวังหากออกแดดนานๆ เสี่ยงที่จะเกิดโรคฮิตเหล่านี้ได้ ข้อมูลโดย กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เตือน 4 อาการอันตราย ตากแดดนานๆ ต้องระวัง

1. ลมแดด หรือ ฮีทสโตรก 

โรคอันตรายที่พบได้บ่อยในช่วงหน้าร้อน โดยเกิดจากที่อยู่ท่ามกลางอากาศร้อนมากเกินไป ทำให้เกิดภาวะร่างกายมีอุณหภูมิสูงกว่าปกติ เมื่อเกิดอาการควรได้รับการรักษาในทันที เพราะอาจส่งผลกระทบที่รุนแรงต่อหัวใจ สมอง ไต และกล้ามเนื้อ หากได้รับการรักษาที่ล่าช้า อาจทำให้อันตรายถึงแก่ชีวิตได้

 

2. เพลียแดด 

มีอาการคล้ายลมแดด จะเริ่มมีอาการเยอะขึ้น มีการคลื่นไส้ อาเจียน ปวดหัว เวียนหัว ท้องเสีย อาจมีการหน้ามืด ใจสั่น ความดันโลหิตสูง แก้ได้โดยทานน้ำเกลือแร่ ลมแดด เป็นภาวะที่อุณหภูมิของร่างกายเกิน 40 องศา ร่วมกับอาการทางระบบประสาท โดยเฉพาะการเปลี่ยนแปลงของความรู้สึก เช่น ซึม สับสน หรือบางทีอาจจะถึงขั้นชักและหมดสติได้

3. ตะคริวแดด

เกิดจากความร้อนทำให้ร่างกายเสียน้ำ และขาดเกลือแร่ จึงเกิดเป็นตะคริว พบได้ทั้งคนที่ทำงานกลางแจ้ง ออกกำลังกายหักโหม หรือแม้แต่ผู้ที่ไม่ได้ออกกำลังกายมาก อาการ : คล้ายกับการเป็นตะคริวทั่วไป คือ กล้ามเนื้อกระตุก เกร็งและรู้สึกเจ็บหรือปวดบริเวณที่เป็นตะคริว ซึ่งมักพบที่บริเวณช่วงน่อง ขา และแขน

 

4. ผิวหนังไหม้เกรียมแดด

เกิดอาการผิวแดง แสบร้อน ระคายเคือง รู้สึกผิวแห้งมากๆ หรือพองเป็นตุ่มน้ำได้ โดยอาการอาจจะเกิดขึ้นทันที หรือหลังจากไปตากแดดมา 1- 3 วันก็ได้ ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของผิวที่ไหม้แดด ซึ่งเกิดจากรังสี UVA UVB จากแสงแดดทำลายผิวชั้นนอก แต่สำหรับคนที่มีผิวบาง หรือผิวสีอ่อนอาจเกิดการไหม้ได้เร็วขึ้นเพียงโดนแดด 30 นาที หลังจากนั้น 2-3 วัน ผิวจะเริ่มมีอาการคันหรือลอกตามมา เนื่องจากเป็นกระบวนการฟื้นฟูและกำจัดผิวหนังที่ตายแล้วตามธรรมชาติของระบบผิวหนัง โดยจะใช้เวลาประมาณ 3-8 วัน ขึ้นอยู่กับอาการแต่ละคนว่ารุนแรงมากน้อยแค่ไหน

 

วิธีป้องกันโรคต่างๆ ที่มากับหน้าร้อน

1. ใส่เสื้อผ้าที่ระบายอากาศได้ดี โปร่งสบาย ไม่รัดแน่นจนเกินไป

2. หลีกเลี่ยงเสื้อผ้าหนาๆ หรือสีเข้ม

3. หลีกเลี่ยงการโดนแสงแดดจัดนานๆ

4. ปกป้องร่างกายจากแดดด้วยการใส่หมวก กางร่ม สวมแว่นกันแดด และทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF ไม่ต่ำกว่า 15 สามารถทาทับเพิ่มเติมได้หากเหงื่อออก หรือว่ายน้ำ

5. อย่าให้ร่างกายขาดน้ำ ดื่มน่ำให้มากๆ ดื่มเรื่อยๆ เมื่อกระหายน้ำ

6. อย่าอยู่บริเวณที่มีอากาศร้อนอบอ้าว และอากาศไม่ถ่ายเทเป็นเวลานาน เช่น ตามบ้านไม้มุงหลังคาสังกะสี ในรถที่ตากแดดนานๆ

7. อย่าอยู่กลางแดดเป็นเวลานาน ใช้เวลาสัมผัสแสงแดดให้น้อยที่สุด หรือหากต้องทำงานกลางแสงแดดร้อนเปรี้ยงจริงๆ ควรพักเข้ามาหลบอยู่ในที่ร่มบ้าง หรือทุกๆ ชั่วโมง

8. หากมีอาการร้อนในร่างกาย เหงื่อไม่ออก คลื่นไส้ เวียนศีรษะ มีอาการงง พูดช้าลง เลอะเลือน เคลื่อนไหวช้า ควรรีบส่งแพทย์โดยด่วน

และสำหรับ หน้าร้อน ที่ ประเทศไทย ใครวางแผนจะเดินทางไปไหนในช่วง เทศกาลสงกรานต์ นี้ ก็อย่าลืมดูแลตัวเองด้วยนะคะ ด้วยความเป็นห่วง ดื่มน้ำเปล่าบ่อยๆ ด้วยคะ

 

ที่มา : กรมควบคุมโรค