ใช้รถต้องรู้! เผยเหตุผล น้ำมัน E85 ถึงไม่ค่อยเป็นที่นิยม ถึงขั้นต้องยกเลิก?
ส่องเหตุผล! น้ำมัน“แก๊สโซฮอล E85” หนึ่งน้ำมันประเภทใหม่สุดที่เพิ่งถูกนำมาใช้อย่างแพร่หลายกับรถยนต์เมืองไทย มาพร้อมกับให้ความหวังให้กับผู้ใช้รถด้วยราคาต่อลิตรที่ถูกกว่าน้ำมันประเภทอื่น แต่ว่ากลับไม่เป็น ที่นิยมของคนใช้รถ มากเท่าที่ควร
ใช้รถต้องรู้! เผยเหตุผล น้ำมัน E85 ถึงไม่ค่อยเป็นที่นิยม ถึงขั้นต้องยกเลิก?
E85 คืออะไร
ทำความรู้จักกับ E85 กันก่อน มันคือน้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับเครื่องยนต์เบนซิน ที่มีส่วนผสมของน้ำมันเบนซินมาตรฐานเข้ากับเอทานอล (E) ในสัดส่วน 15 เปอร์เซ็นต์ และ 85 เปอร์เซ็นต์ จึงถูกเรียกว่า E85 ซึ่งคุณสมบัติของน้ำมันชนิดนี้หลายคนเข้าใจผิดว่า เป็นน้ำมันราคาถูกและมีค่าออกเทนต่ำ แต่ในความเป็นจริงแล้ว เอทานอลบริสุทธิ์ซึ่งผสมอยู่ในน้ำมัน E85 จะมีระดับออกเทนอยู่ที่ 105 – 115 ซึ่งสูงกว่าน้ำมันเบนซิน ทั้ง 91 และ 95 ที่สำคัญมันสามารถเพิ่มแรงม้าให้กับรถยนต์อีก 5 – 10% และยังช่วยให้เครื่องยนต์เดินเรียบขึ้นอีกด้วย
สรุปยอดขาย E85
จากสถิติปริมาณการจำหน่ายน้ำมันเชื้อเพลิงต่อวันที่อ้างอิงจากกรมธุรกิจพลังงาน กระทรวงพลังงาน ย้อนไปในปี 2560 ที่ผ่านมา เป็นตัวเลขที่ยืนยันได้ชัดเจนว่า E85 มียอดขายเฉลี่ยเพียง 1 ล้านลิตรต่อวัน ซึ่งเป็นรองทั้ง E20 ที่ขายได้วันละ 5.3 ล้านลิตร และเทียบไม่ได้เลยกับ แก๊สโซฮอล์ 91 และ แก๊สโซฮอล์ 95 ที่มียอดขายเฉลี่ยต่อวันสูงถึง 10 และ 12 ล้านลิตรตามลำดับ ส่วนหนึ่งอาจเป็นผลมาจากปั๊มน้ำมันทั่วประเทศยังมีบริการ E85 ไม่ทั่วถึง และประเด็นสำคัญเลยคือไม่เป็นที่นิยมจากผู้ใช้รถนั่นเอง
E85 ใช้ได้เฉพาะรถยนต์บางรุ่น
E85 ได้ไม่ครอบคลุมแบบร้อยเปอร์เซ็นต์แล้ว ข้อจำกัดของการเติมน้ำมันชนิดนี้ ก็คือรถยนต์นั่นเอง เนื่องจากรถยนต์ในยุคก่อนไม่ได้ออกแบบมาเพื่อใช้กับน้ำมัน E85 ซึ่งมีส่วนผสมของ เอทานอล หรือ แอลกอฮอล์ ที่อาจไปทำลายวัสดุในระบบทางเดินน้ำมันเชื้อเพลิงให้เสียหายได้ อย่างไรก็ดีในยุคปัจจุบัน รถยนต์รุ่นใหม่ที่ผลิตจากโรงงานได้มีการปรับโครงสร้างให้สามารถรองรับ E85 ได้เกือบทั้งหมดแล้ว
รถยนต์ที่เหมาะกับการใช้ E85
สำหรับ E85 นั้นค่อนข้างมีข้อจำกัดในการใช้มากกว่า E20 ซึ่ง E85 นั้นใช้ได้กับกลุ่มรถที่เรียกว่า Flex Fuel Vehicle หรือ FFV (ในที่นี้หมายถึง รถยนต์ มอเตอร์ไซค์ เรือ พาหนะทุกชนิดที่ใช้น้ำมันเบนซินหัวฉีดติดได้หมด) ซึ่งก็คือเครื่องยนต์ที่เขาผลิตออกแบบมา ให้เติมน้ำมันที่มีส่วนผสมของเอทานอลได้ ซึ่งสามารถเติมได้ตั้งแต่น้ำมัน ธรรมดาไปถึง E85 และ เราสามารถเติมต่างชนิดกันผสมได้อีกด้วยโดย ไม่เกิดปัญหา ด้วย เพราะ FFV จะมีหน่วยควบคุมอิเล็กทรอนิคส์ (ECU) ทำหน้าที่ วัดปริมาณโมเลกุลของออกซิเจนที่เข้าไปในเครื่องยนต์ ปรับการทำงานเหมาะสมกับน้ำมันที่ใช้อยู่ ทำให้รถยนต์ทำงานได้เต็มสมรรถนะ
อย่างไรก็ตามน้ำมันแก๊สโซฮอล์ E85 ได้ถูกพัฒนาขึ้นให้ใช้สำหรับรถประเภท Flex Fuel Vehicle ที่ออกแบบให้รองรับน้ำมันประเภทนี้โดยเฉพาะ ซึ่งเริ่มมีวางจำหน่ายในประเทศไทยเมื่อช่วงปี 2008 ขึ้นมา การเติมน้ำมัน E85 ลงไปในรถที่ไม่รองรับ อาจส่งผลให้ชิ้นส่วนต่างๆ เกิดความเสื่อมสภาพเร็วกว่าปกติ เช่น ท่อน้ำมัน, หัวฉีดน้ำมัน, ปั๊มติ๊ก ฯลฯ และอาจส่งผลให้รถหลุดการรับประกันคุณภาพ (Warranty) ได้อีกด้วย
หมดเร็วกว่าน้ำมันประเภทอื่นๆ
หลายชอบบ่นว่า น้ำมัน E85 หมดเร็วกว่าน้ำมันชนิดอื่นๆไม่ใช่เหตุผลที่บอกว่าแอลกอฮอล์ระเหยเร็วกว่าเบนซินที่หลายคนเข้าใจกัน เพราะถังน้ำมันเชื้อเพลิงในรถยนต์เป็นการเก็บแบบระบบปิดโอกาสที่น้ำมันจะระเหยออกมาถือว่าเป็นไปได้ยาก ทว่าเหตุผลที่แท้จริงที่ทำให้ E85 หมดเร็วกว่าน้ำมันชนิดอื่น เนื่องจากแอลกอฮอล์ให้ค่าพลังงานต่ำกว่าน้ำมันเบนซิน ดังนั้นน้ำมันที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์จึงต้องใช้ในปริมาณที่มากกว่าเพื่อที่จะทำให้ค่าความร้อนเท่ากับน้ำมัน E20 รวมไปถึง โซฮอล์ 91 และ โซฮอล์ 95 นั่นเองครับ!