เผย 7 สาเหตุ ที่เครื่องยนต์ร้อน และวิธีแก้ไขดังต่อไปนี้
ส่วนประกอบหลักของรถยนต์ ก็คือ เครื่องยนต์ที่ใช้ขับเคลื่อนในแต่ละครั้ง โดยในกรณีเครื่องยนต์ร้อน มีหลายสาเหตุ ลองเช็กดูว่ารถยนต์ของเราน่าจะอยู่ในสาเหตุใด จะได้เร่งแก้ไข และ ยิ่งเดินทางกันในช่วงเทศกาลแบบนี้ จะต้องทำอย่างไร
เผย 7 สาเหตุ ที่เครื่องยนต์ร้อน และวิธีแก้ไขดังต่อไปนี้
สาเหตุที่เครื่องยนต์ร้อนได้แก่ ระบบระบายความร้อนของรถยนต์จะทำหน้าที่ไม่ให้มีอุณหภูมิที่สูงมากเกินไป ซึ่งจะส่งให้เสียหายต่อลูกสูบรวมไปถึงชิ้นส่วนอื่นๆ ของรถยนต์
เครื่องยนต์ร้อนมีหลายสาเหตุได้แก่
1. น้ำในหม้อน้ำลด จุดแรกที่ต้องตรวจเช็คก็คือ “หม้อน้ำ” เพราะหม้อน้ำเป็นตัวช่วยระบายความร้อนในรถยนต์และรักษาอุณหภูมิไม่ให้เครื่องร้อนจนเกินไป
2. ปั๊มน้ำชำรุด หรือสายพานปั๊มน้ำขาด หากปั๊มน้ำชำรุด น้ำในหม้อน้ำไม่สามารถเวียนผ่านเครื่องยนต์ได้เต็มที่ เครื่องยนต์ก็จะร้อน และอุณหภูมิลดลงช้ากว่าเคย ทำให้ความร้อนขึ้นเร็ว และยิ่งถ้าสายพานปั๊มน้ำขาดด้วย พัดลมหม้อน้ำจะหยุดหมุน ก็ยิ่งทำให้เครื่องร้อนมากขึ้นไปอีก
3. ท่อน้ำตัน เสื่อมสภาพ หรือหลุดออก สาเหตุนี้มักเกิดกับรถยนต์ที่ใช้งานมาเป็นเวลานาน ซึ่งท่อน้ำอาจเสื่อมสภาพไปตามเวลา ท่อน้ำแตก หักงอ อุดตัน ทำให้ไหลเวียนไม่สะดวก หรืออาจเกิดท่อน้ำหลวม หลุดออก ทำให้มีรอยรั่วให้น้ำซึมออกได้ ทางที่ดีควรเปลี่ยนท่อน้ำใหม่
4. วาล์วน้ำชำรุด วาล์วน้ำมีหน้าที่ช่วยควบคุมความเย็นของน้ำยาหล่อเย็นในหม้อน้ำ ถ้าหากวาล์วน้ำชำรุด วาล์วน้ำเปิดอยู่ตลอดเวลา เมื่อน้ำใกล้ถึงจุดเดือดก็จะระเหยออกไป เครื่องยนต์จะระบายความร้อนไม่ทัน
5. หม้อน้ำขึ้นสนิม รถยนต์ที่ใช้งานมานานแล้วไม่ได้มีการเปลี่ยนถ่ายน้ำในหม้อน้ำตามระยะที่ควรเปลี่ยน ไม่มีการเติมน้ำยาหล่อเย็น ก็เป็นสาเหตุให้หม้อน้ำขึ้นสนิม
6. น้ำมันหล่อลื่นน้อยเกินไป เนื่องจากน้ำมันหล่อลื่นจะช่วยลดแรงเสียดทานของเครื่องจักรภายในเครื่องยนต์ ถ้าน้ำมันหล่อลื่นน้อย เกิดแรงเสียดทานมาก ทำให้เกิดความร้อนขึ้นภายในห้องเครื่อง
7. เศษขยะอุดตัน ถ้าหากรถของใครที่จอดทิ้งไว้นาน หรือมีเศษหญ้า ใบไม้ สิ่งสกปรกต่างๆ อุดตันอยู่บริเวณกระจังหน้ารถยนต์ หรือวิ่งๆ ไปมีเศษกระดาษ ถุงพลาสติกมาปิดหน้ารถ ก็จะเป็นการปิดกั้นไม่ให้ลมพัดไปถึงเครื่องยนต์ ไม่เกิดการระบายความร้อน เป็นสาเหตุให้เครื่องยนต์ร้อนได้เช่นกัน
เครื่องยนต์ร้อนแก้ไขอย่างไรดี
ให้หมั่นตรวจสอบระดับน้ำในหม้อน้ำบ่อยๆและเปลี่ยนถ่ายน้ำมันหล่อเย็นตามระยะที่คู่มือกำหนด และขณะขับขี่ต้องสังเกตอาการเครื่องยนต์ร้อนจัดได้จากเข็มวัดอุณหภูมิที่หน้าปัด โดยปกติจะอยู่ระหว่างตัว C และ H หรือ 85 - 90 องศาเซลเซียส หากเข็มวัดอุณหภูมิเคลื่อนมาอยู่ใกล้ตัว H แสดงว่าเครื่องยนต์ร้อนจัด หรือไฟเตือนหน้าปัดรูปคล้ายๆตัว F ถ้าเป็นสีแดงเมื่อไหร่ คือร้อนจัดแล้ว
ถ้ามีไอน้ำพุ่งขึ้นมาจากฝากระโปรงรถ ควรรอจนความร้อนของเครื่องยนต์ลดลง แล้วจึงค่อยเปิดฝากระโปรงรถ สิ่งสำคัญคือ ห้ามใช้น้ำราดเด็ดขาด เพราะจะทำให้เครื่องยนต์เสียหายได้ ทิ้งให้เครื่องเย็น แล้วใช้ผ้าหนาๆเปิดฝาหมอน้ำ เติมน้ำลงไปช้าๆ เมื่อเต็มแล้วทิ้งไว้สักพัก เติมน้ำเปล่าหรือน้ำหล่อเย็นช้าๆ จนเต็ม ทิ้งไว้สัก 5 นาที แล้วสตาร์ทเครื่องยนต์ และออกตัวขับช้าๆ แล้วให้นำรถไปเข้าศูนย์บริการเพื่อตรวจเช็กอีกครั้ง
ที่มา yukonlubricants,TQM