7 เรื่องควรรู้ก่อนซื้อรถยนต์ไฟฟ้า Ev ให้ตรงกับไลฟ์สไตล์ของคุณมากที่สุด

06 กุมภาพันธ์ 2566
45

7 เรื่องควรรู้ก่อนซื้อรถยนต์ Ev ให้ตรงกับไลฟ์สไตล์ ของคุณให้มากที่สุด ซึ่งยานยนต์ไฟฟ้าตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม - 31 ธันวาคม 2565 อยู่ที่ 96,182 คัน โดยยานยนต์พลังงานไฟฟ้า (BEV) มียอดจดทะเบียนอยู่ที่ 20,816 คัน เติบโตขึ้น 260% จากปี 2565

7 เรื่องควรรู้ก่อนซื้อรถยนต์ไฟฟ้า Ev ให้ตรงกับไลฟ์สไตล์ของคุณมากที่สุด

7 เรื่องควรรู้ก่อนซื้อรถยนต์ไฟฟ้า Ev ให้ตรงกับไลฟ์สไตล์ของคุณมากที่สุด

ด้วยราคาน้ำมันที่เเพงขึ้นในแต่ล่ะวัน ซึ่งตามนโยบายขับเคลื่อนอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้า (EV) ของรัฐบาลทั้งด้านภาษี เงินสนับสนุน ส่งผลให้ราคารถอีวีขณะนี้มีราคาเทียบเท่ากับรถยนต์สันดาป และจากปัจจัยที่ราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้น การจ่ายค่าไฟฟ้าจึงเป็นอีกปัจจัยที่ทำให้ประชาชนหันมาใช้รถอีวีมากยิ่งขึ้น

 

โดยตัวเลขยอดรถยนต์ไฟฟ้าปี 2565 ที่สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยตัวเลข คือ ตัวเลขยานยนต์ประเภทไฟฟ้า (BEV) จดทะเบียนใหม่ (ป้ายแดง) สะสมปี 2565 มีจำนวน 20,815 คัน เพิ่มขึ้น 274.64% จากปีก่อน แบ่งเป็น รถยนต์นั่งและรถยนต์ประเภทต่างๆ อาทิ รถยนต์นั่ง, รถยนต์โดยสารไม่เกิน 7 คน และรถยนต์บริการธุรกิจ รวม 9,643 คัน, รถกระบะ รถแวน 30คัน, รถยนต์สามล้อรับจ้าง 227 คัน, รถยนต์รับจ้างสามล้อ 199 คัน, รถยนต์สามล้อส่วนบุคคล 28 คัน, รถจักรยานยนต์ส่วนบุคคล-สาธารณะ 9,915 คัน, รถโดยสาร 976 คัน และ รถบรรทุก 24 คัน

7 เรื่องควรรู้ก่อนซื้อรถยนต์ไฟฟ้า Ev ให้ตรงกับไลฟ์สไตล์ของคุณมากที่สุด

ซึ่งยานยนต์ไฟฟ้าตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม - 31 ธันวาคม 2565 อยู่ที่ 96,182 คัน โดยยานยนต์พลังงานไฟฟ้า (BEV) มียอดจดทะเบียนอยู่ที่ 20,816 คัน เติบโตขึ้น 260% จากปี 2565 ที่อยู่ที่ 5,781 คัน, ยานยนต์ปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) มียอดจดทะเบียนอยู่ที่ 11,331 คัน จากปี 2565 อยู่ที่ 7,060 คัน ในขณะที่ยานยนต์ไฮบริด (HEV) มียอดจดทะเบียนอยู่ที่ 64,035 คัน จากปี 2565 อยู่ที่ 35,740 คัน

7 เรื่องควรรู้ก่อนซื้อรถยนต์ไฟฟ้า Ev ให้ตรงกับไลฟ์สไตล์ของคุณมากที่สุด

7 เรื่องที่ต้องรู้ก่อนซื้อ รถ EV ให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์ของแต่ละบุคคล ประกอบด้วย

1.เตรียมที่ชาร์จไฟฟ้าที่บ้าน ถ้าที่บ้านไม่ติดตั้งไว้ลำบากแน่นอน
2.ความจุของแบตเตอรี่ เพียงพอต่อการใช้งานหรือไม่
3.ระยะเวลาในการชาร์จแบตเตอรี่
4.ระยะทางที่วิ่งได้ไกลที่สุด 
5.ราคาที่ต้องจ่ายต่อการชาร์จแบตเตอรี่
6.แบรนด์ที่น่าเชื่อถือและมีบริการหลังการขาย
7.ค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุง