เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2565 สปริงนิวส์ ร่วมกับ สำนักงานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ(สวทช.) และเครือเนชั่น จัดงานเสวนา VIRTUAL FORUM : BCG Ecomy Drive for Thailand Sustainability เศรษฐกิจ BCG ขับเคลื่อนประเทศไทยสู่ความยั่งยืน เพื่อนำเสนอแนวทางการขับเคลื่อนธุรกิจผ่าน BCG Model หรือเศรษฐกิจชีวภาพ และเศรษฐกิจหมุนเวียนและเศรษฐกิจสีเขียว
โดยงานสัมมนาครั้งนี้ได้รับเกียรติจากผู้ทรงคุณวุฒิหลายท่าน ที่ได้เสนอทิศทางการขับเคลื่อน BCG Economy Model สร้างเศรษฐกิจไทย ซึ่งสาขาเกษตร นั้นได้รับเกียรติจากทาง นายสัตวแพทย์ ยุคล ลิ้มแหลมทอง ประธานคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนการพัฒนา เศรษฐกิจ BCG model สาขาเกษตร ได้เผยถึงเป้าหมายภาคเกษตรที่ตั้งไว้ 3 สูง ประกอบไปด้วย ประสิทธิภาพสูง มาตราฐานสูง และรายได้สูง โดยใช้หลักวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเข้ามาช่วยในการจัดการแก้ปัญหา จะทำให้เกิดการลดต้นทุนการผลิต ลดความเสี่ยงต่างๆและไม่สร้างมลภาวะ
ส่วนกระบวนการพัฒนานั้มมีจัดตั้งคณะกรรมการจัดการคล้ายกับแบบ Area Base โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธาน คณะกรรมการอำนวยการในจังหวัด เพื่อดูภาพรวมของจังหวัดแล้วคัดเลือกสินค้าที่สามารถขับเคลื่อน IMM มูลค่ามวลรวมของจังหวัดได้ มาพัฒนาต่อซึ่งทีมงานของแต่ละจังหวัด จะมีหน่วยงานทั้งภาพรัฐ มหาวิทยาลัย และภาคเอกชน ของแต่ละจังหวัดเข้ามาช่วยจัดการระบบสินค้าการเกษตร การแก้ปัญหาและข้อจำกัดต่าง ๆ ที่มีอยู่ ให้เกิดการพัฒนา ซึ่งจะทำในลักษณะของหุ้นส่วนเศรษฐกิจ โดยมี 5 จังหวัดนำร่องประกอบไปด้วย
1.จังหวัดราชบุรี สินค้าที่จะพัฒนาประกอบไปด้วย มะพร้าวน้ำหอม พืชผัก โคนม สุกรและกุ้ง
2.ลำปาง สินค้าที่จะพัฒนาประกอบไปด้วย ข้าว ครั่งและไผ่
3.ขอนแก่น สินค้าที่จะพัฒนาประกอบไปด้วย อ้อย และ หม่อนไหม
4.จันทบุรี สินค้าที่จะพัฒนาประกอบไปด้วย ทุเรียน มังคุด และปูม้า
5.พัทลุง สินค้าที่จะพัฒนาประกอบไปด้วย ข้าวสังข์หยด ปลาดุก สุกรชีวภาค และสละ
5 จังหวัดนำร่อง BCG Economy Model
ดังนั้น BCG Economy Model นั้นเป็นเรื่องที่ใกล้ตัวมาก ทั้งตอบโจทย์ทางภาคธุระกิจ รักษาสิ่งแวดล้อม และเชื่อมโยงกับชุมชน ที่เกษตรสามารถนำแนวคิดนี้มาปรับใช้ได้จริง โดยเริ่มต้นได้ที่ตัวเกษตรกรเอง จะช่วยลดต้นทุนการผลิต ลดความเสี่ยงต่างๆ และเกิดการพัฒนาสินค้าการเกษตร ซึ่งจะสอดคล้องกับเป้าหมายที่ตั้งไว้ 3 สูง คือ ประสิทธิภาพสูง มาตราฐานสูง และรายได้สูง