กล้วยไข่ พืชเศรษฐกิจ ต้นทุนต่ำปลูกง่ายรายได้ดี
กล้วยไข่ ผลไม้ขึ้นชื่อของประเทศไทย ที่อุดมไปด้วยประโยชน์หลากชนิด ไม่ว่าจะเป็น วิตามินอี เบตาแคโรทีน และวิตามินซี วันนี้ทีมข่าว Thainews Online จะพามารู้จัก พืชเศรษฐกิจ กล้วยไข่ ปลูกง่ายรายได้ดี
กล้วยไข่ เป็นกล้วยที่ได้รับความนิยมในการบริโภค โดยเฉพาะกล้วยไข่ที่สุกแล้วนั้น จะมีรสชาติอร่อย หอมหวาน กล้วยไข่ เป็นชื่อผลไม้ชนิดหนึ่งที่อยู่ในตระกูลกล้วย (Musaceae) โดยชื่อภาษาอังกฤษเรียกว่า lady finger banana กล้วยชนิดนี้ สามารถปลูกได้ทั่วทุกภาคของประเทศไทย
กล้วยไข่ ถือเป็น พืชเศรษฐกิจ สำคัญอย่างหนึ่งที่สามารถนำรายได้เข้าประเทศ และยังเป็นที่นิยมสำหรับนักท่องเที่ยวอย่าง ประเทศจีน และ ฮ่องกง อีกทั้งยังมีการส่งออกไปสู่ประเทศญี่ปุ่น และสิงค์โปร อีกด้วย
ขั้นตอนการปลูกและการดูแลรักษากล้วยไข่
กล้วยไข่ เป็นพืชที่ปลูกได้แทบทุกภาคของประเทศในพื้นที่ปลูกที่มีการจัดการ การผลิตเพื่อให้ได้ทั้งปริมาณ และผลผลิตตรงตามมาตรฐานคุณภาพ ตลาดต้องการ ดังนั้นกระบวนการผลิตจึงต้องมีการปฏิบัติอย่างถูกต้องและเหมาะสม
วิธีการปลูก
- ควรเลือกหน่อจากต้นที่ตัดเครือแล้วและเป็นหน่อที่มีใบแคบ (มีความแข็งแรงกว่าหน่อที่มีใบกว้าง)
- วัดพื้นที่เตรียมปลูก โดยระยะที่เหมาะสม 2x2,2x3 เมตร ขุดหลุมกว้าง 50x50 เซนติเมตร
- วางหน่อพันธุ์ที่หลุมปลูก (หลุมลึกประมาณ 30-40 เซนติเมตร) โดยจัดวางหน่อพันธุ์ให้ด้านที่ติดกับต้นแม่อยู่ในทิศทางเดียวกัน กลบดินลงหลุมปลูกและกดดินบริเวณโคนต้นให้แน่น แล้วรดน้ำให้ชุ่ม
การปฏิบัติดูแลรักษา
การพรวนดิน ภายหลังปลูกกล้วยไข่ประมาณ 1 เดือน ควรรีบทำการพลิกดินให้ทั่วทั้งแปลงปลูก เพื่อให้ดินเก็บความชื้นจากน้ำฝนไว้ให้มากที่สุด และเป็นการกำจัดวัชพืชไปด้วย ขณะที่รากกล้วยยังขยายไปไม่มากนัก และตัดหน่อกล้วยที่งอกขึ้นมาใหม่ไม่ให้แย่งอาหารจากต้นแม่
การเก็บเกี่ยว
หลังจากวันตัดปลี ห่อผลเสร็จเรียบร้อยแล้ว นับอีก 30 วัน จะได้ กล้วยไข่ที่มีคุณภาพเกรด A ควรเก็บเกี่ยวด้วยความระมัดระวัง ใช้มีดสะอาดและคมตัดเครือกล้วยไม่ให้เครือกล้วยสัมผัสพื้นดิน ขนย้ายด้วยพาหนะที่สะอาดและมีวัสดุหนานิ่มไม่ให้กลัวยช้ำ เพื่อคุณภาพที่ดีก่อนถึงมือผู้บริโภค
เทคนิคการทำกล้วยต้นทุนต่ำ
การพูนโคน
โดยการโกยดินเข้าสุมโคนกล้วย ช่วยลดปัญหาการโค่นล้มของต้นกล้วยเมื่อมีลมแรง โดยเฉพาะต้นตอที่เกิดขึ้นระยะหลังโคนจะลอยขึ้นทำให้กล้วยโค่นล้มลงได้ง่าย
การแต่งหน่อ (ใช้หน่อที่ 2)
หลังจากตัดหน่อที่ 1 ซึ่งจำหน่ายเครือแล้ว ให้ฟันต้นตอแม่จากดินประมาณ 70 เซนติเมตร เจาะลำต้นบริเวณกลางลำต้นให้เป็นหลุม แบบหลุมขนมครก เพื่อใส่ปุ๋ยสูตรเสมอ เพื่อบำรุงต้นที่ 2 (หน่อลูก) ประมาณ 1 ช้อนแกง (ประมาณ 1 ขีด) ต่อต้นต่อส่วนโคนต้นใส่ขี้นกกระทาประมาณ 3 ขีด (300 กรัม) ช่วงนี้เร่งใส่ปุ๋ยสูตร 15-5-25 (ขยายลูก-สร้างปลีดอก-เนื้อแน่น) ประมาณ 200 กรัม/ต้น จนกล้วยออกปลีใช้เวลาประมาณ 15 วัน จนปลีกล้วยคลี่หมด เลือกหวีที่สมบูรณ์เอาไว้ ตัดลูกเล็ก (หวีเต่า) ออก เหลือหวีกล้วยที่มีคุณภาพประมาณ 5 หวี (เกรด A ใช้ถุงฟรอยด์ห่อกล้วย มัดให้แน่นพอสมควร ให้น้ำตามปกติ (โคนต้น)