New MG Pilot ลงตลาดรถยนต์ SUV เครื่องยนต์มีให้เลือก 2 แบบ ระบบขับขี่อัตโนมัติ

New MG Pilot พร้อมลงสู่ตลาดรถยนต์ SUV ในประเทศไทย เป็นรถยนต์ครอสโอเวอร์ เอสยูวี ทายาทสืบสายตระกูล HS บนไลน์อัพเดียวกัน ซึ่งจากการแบรนด์คู่เเข่งอย่างเจ้า All New Haval H6 จากค่ายเกรทวอลมอเตอร์ ได้เข้ามาทำตลาดในประเทศไทยเช่นเดียวกัน ทำให้ทาง MG ได้เปิดตัวเจ้า New MG Pilot ขึ้นมาด้วยกัน เพื่อต่อกรองกับทั้งเเบรนด์สัญชาตเดียวกันและทางเเบรนด์จากประเทศญี่ปุ่น โดยจุดเด่นของเจ้า New MG Pilot นั้นอยู่ที่ ระบบอัจริยะขับขี่อัตโนมัติพร้อมภาพลักษณ์ตัวรถนั้นดูหรูหราและพรีเมี่ยมมากขึ้น

New MG Pilot 

รูปโฉมภายนอก New MG Pilot ภาพลักษณ์ตัวรถนั้นดูหรูหราและพรีเมี่ยมมากขึ้นเริ่มกันที่กระจังหน้าขนาดใหญ่ พร้อมไฟส่องสว่างดีไซน์ใหม่ 

1.5 Turbo

เครื่องยนต์รหัส SGE เบนซิน 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว ขนาด 1.5 ลิตร 1,490 ซีซี กระบอกสูบ x ช่วงชัก : 74.0 x 86.6 มิลลิเมตร กำลังอัด 10.0 : 1 จ่ายเชื้อเพลิงด้วยหัวฉีดอีเล็กโทรนิคส์ ตรงสู่ห้องเผาไหม้ GDI (Direct Injection) พ่วงระบบอัดอากาศ Turbocharger กำลังสูงสุด 162 แรงม้า (PS) ที่ 5,600 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 250 นิวตันเมตร (25.47 กก.-ม.) ที่ 1,700 – 4,300 รอบ/นาที จับคู่กับเกียร์  Dual-Clutch 7 จังหวะ ขับเคลื่อนล้อหน้า รองรับน้ำมันเชื้อเพลิงสูงสุด Gasohol E85

PHEV

เครื่องยนต์ SGE เบนซิน 4 สูบ DOHC 16 วาล์ว ขนาด 1.5 ลิตร  1,490 ซีซี. กระบอกสูบ x ระยะช่วงชัก : 74.0 x 86.6 มิลลิเมตร อัตราส่วนกำลังอัด 11.5 : 1 จ่ายเชื้อเพลิงด้วยหัวฉีดอีเล็กโทรนิคส์ ตรงสู่ห้องเผาไหม้ GDI (Direct Injection) พ่วง Turbochargerกำลังสูงสุด 162 แรงม้า (PS) ที่ 5,500 รอบ/นาที แรงบิดสูงสุด 250 (25.47 กก.-ม.) นิวตันเมตร ที่ 1,700 – 4,300 รอบ/นาที

ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า Permanent Magnet Synchronous Motor พละกำลังสูงสุด 122 แรงม้า (PS) แรงบิดสูงสุด 230 นิวตันเมตร จับคู่กับเกียร์อัตโนมัติ 10 จังหวะ EDU II Gearboxเมื่อเครื่องยนต์ทำงานร่วมกับมอเตอร์ไฟฟ้า จะได้พละกำลังรวมสูงสุด 284 แรงม้า 480 นิวตันเมตร แบตเตอรี่ Lithium-ion จำนวน 6 โมดูล ขนาด 16.6 kW พร้อมระบบระบายความร้อนแบบ Coolant สามารถแยกซ่อมแต่ละโมดูลได้ตัวเลขสมรรถนะจากโรงงาน

อัตราเร่ง 0-100 km/h ภายใน 7.5 วินาที

วิ่งด้วยไฟฟ้าล้วน ได้ระยะทางไกลสุด 67 กิโลเมตร (มาตรฐาน NEDC)

ภายในห้องโดยสาร มาพร้อมความสปอร์ตลงตัว พร้อมหน้าแสดงผลแบบ Infotainment ใหม่ ฟีเจอร์ที่โดดเด่นอย่างระบบการขับขี่อัตโนมัติ L 2.5 PLUS ซึ่งควบคุมด้วยระบบที่มีชื่อว่า MG Pilot 2.0 ควบคุมด้วยเสียงเต็มรูปแบบ เครื่องเสียงส่วนกลางหน้าจอสัมผัส 12.3 นิ้ว พร้อมระบบนำทาง 3D ลำโพง BOSE® PREMIUM Theater Class ลำโพง-8 ตัว + ซับวูฟเฟอร์ Richbass 1 ตัว หน้าปัดดิจิตอลความละเอียดสูง 10.1 นิ้ว 

ระบบป้อนกุญแจอัจฉริยะ Auto Hold จอดรถอัตโนมัติ Start / Stop ระบบสตาร์ท – ดับอัจฉริยะ ระบบปรับอากาศอัตโนมัติ + แอร์หลัง เบาะคนขับปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง ผู้นั่งโดยสารหน้าปรับมือ 4 ทิศทาง เบาะหลัง 4/6 แยกปรับได้ พวงมาลัยหุ้มหนังปรับ 4 ทิศทาง ซันรูฟพาโนรามาขนาดใหญ่ ชาร์จโทรศัพท์ไร้สาย

 

ขอบคุณที่มาจาก:https://www.thaidriving.com/mg-pilot/