สัตว์เข้าบ้าน ลางบอกเหตุ คุณกำลังจะมีโชค

บทความต่อไปนี้ ไม่ได้มีเจตนาสื่อไปในทางงมงาย เป็นความเชื่อโบราณเฉพาะท้องถิ่น โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน คุณเคยมี ลางสังหรณ์ ไหมคะ เคยสังเกตไหมว่าทำไมพักนี้บ้านเรามี สัตว์เข้าบ้านบ่อยจังเลย ทั้งที่บริเวณบ้านก็ไม่ได้มีป่า ไม่มีต้นไม้ใหญ่ หรือจะเป็น ลางบอกเหตุ ให้เราระวังอะไรหรือเปล่า ไปดูคำตอบกัน

สังเกตสัตว์เข้าบ้าน ตาม ความเชื่อ ได้แก่

1. หากมีนกมาจับที่ยอดจั่วบ้าน (มุมหลังคาบ้าน) คนโบราณเขาว่า ท่านจะมีความเจริญรุ่งเรือง

2. แมวอาศัยอยู่ด้วย คนโบราณเขาว่า ท่านจะได้ลาภและมีโชค

3. นกแร้งบินมาจับต้นไม้ในบ้าน คนโบราณเขาว่า เจ้านายจะให้ลาภและสงเคราะห์ท่าน

4. สุนัขจรจัดมาอาศัย คนโบราณเขาว่า จงระวังคนพาล

5. ค้างคาวเข้าห้อง ตามความเชื่อของคนโบราณถือว่าเจ้าของบ้านจะได้โชคได้ลาภในเร็ววันอย่างไม่ทันตั้งตัว

6. คางคกขึ้นบันได คนโบราณเขาว่า หากเห็นคางคกกระโดดขึ้นบันไดบ้าน หรือ เข้าไปในบ้านใครก็ตามถือว่าเป็นลางดี อย่าไล่ รอให้น้องออกไปเอง

7. เห็นแมลงเม่าตอมไฟ คนโบราณเขาว่า ท่านจะได้ข่าวจากญาติ

8. เห็นตะขาบอยู่ใต้ถุนบ้าน คนโบราณเขาว่า ท่านจะมีบุญวาสนา มีอำนาจราชศักดิ์

9. มดดำเดินเป็นแถวลอดรั้วบ้านเข้ามา คนโบราณเขาว่า ให้ระวังคนมาอยู่ใหม่

10. นกแสกจับรั้ว คนโบราณเขาว่า ระวังอันตรายจะมาสู่ท่าน

11. จิ้งเหลนวิ่งเข้าบ้าน คนโบราณเขาว่า ท่านจะสูญลาภ

12. ตั๊กแตนกระโดดเข้าห้องนอน คนโบราณเขาว่า ระวังคนมายุแหย่หาความ

13. เห็นงูเขียวบนเพดาน คนโบราณเขาว่า จะพบกับคนเจ้าเล่ห์ให้ระวังตัว อย่าไว้ใจใครมากนัก

14. เห็นตัวเงินตัวทองใต้ถุนบ้าน คนโบราณเขาว่า ให้เรียกตัวเงินตัวทองแล้วจะมีโชคลาภหมดเคราะห์หมดโศก

15. นกตีกันบนหลังคา คนโบราณเขาว่า เพื่อนจะมาหาและนำลาภมาจงต้อนรับให้ดี

16. หากเห็นแมลงภู่มาตอมดอกไม้ในบ้าน คนโบราณเขาว่า ท่านจะมีความสุขสำราญ

17. เห็นกิ้งก่ายืนนิ่งอยู่ใกล้ประตูบ้าน คนโบราณเขาว่า ท่านจะพบกับความสุขสำราญ

18. ถ้าแมววิ่งไล่สุนัขท่าน คนโบราณเขาว่า จะพบกับเรื่องเดือดร้อน

19. เห็นหิ้งห้อยเข้ามาในห้องแล้วหายไป คนโบราณเขาว่า ระวังคนหลอกลวง ใจคอหนักแน่นไว้จะดี

20. นกกระจอกมาทำรังในบ้าน คนโบราณเขาว่า ญาติมิตรจะปรองดองกันดี

ความเชื่อโบราณ เรื่อง สัตว์เข้าบ้าน นี้มีมาตั้งแต่อดีตไม่ได้แต่งเติม เพียงแค่หยิบยกความเชื่อที่ ปู่ ย่า ตา ยาย เคยบอกเคยสอนเอาไว้เท่านั้น ซึ่งปัจจุบันความเชื่อพวกนี้ก็เริ่มหายไปตามยุคสมัย และบทความนี้เป็นเพียงความเชื่อที่อยากจะให้เด็กรุ่นใหม่ๆ ได้อ่านผ่านตาบ้าง ไม่จำเป็นต้องเชื่อทั้งหมดก็ได้ เพราะเรื่องแบบนี้มันอยู่ที่ดวงใครดวงมันและดุลพินิจ

ขอบคุณ : TNEWS / โซเชียลมีเดีย