ประเด็นเรื่อง "ไม้ขีดไฟกับไฟแช็ก" ที่ปรากฏในซีรีส์ "สงครามส่งด่วน" กลายเป็นที่พูดถึงอย่างกว้างขวางในหมู่ผู้ชม ว่าสิ่งนี้ต้องการสื่อถึงอะไร ล่าสุด คมสันต์ แซ่ลี ได้ออกมาเล่ามุมมองของตนเอง พร้อมถ่ายทอดประสบการณ์ชีวิตจริงที่สอดคล้องกับประเด็นนี้
ตัวจริงมาเอง คมสันต์ ไขปม ไม้ขีดกับไฟแช็ก บทเรียนฝังใจ จำไม่ลืม
ตัวจริงมาเอง คมสันต์ ไขปม ไม้ขีดกับไฟแช็ก บทเรียนฝังใจ จำไม่ลืม
เขาเล่าย้อนถึงช่วงแรกที่เดินทางจากดอยลงมากรุงเทพฯ และได้มีโอกาสร่วมโต๊ะอาหารกับนักธุรกิจระดับแถวหน้าหลายคน ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง เขานำไวน์ขวดที่ตนเองคิดว่าดีที่สุดมาแนะนำด้วยความภาคภูมิใจ เพราะในมุมของเขา มันคือของมีค่าที่สุด ณ ตอนนั้น
ระหว่างมื้ออาหาร เขาเริ่มเล่าความฝันของตัวเองว่าอยากพาองค์กรเติบโตไกลในสไตล์ของตัวเอง ทว่าไม่มีใครเชื่อในสิ่งที่เขาพูด จนกระทั่งมีรุ่นพี่คนหนึ่งเดินมากอดคอแล้วกล่าวคำหนึ่งที่ฝังใจไม่ลืม
ตัวจริงมาเอง คมสันต์ ไขปม ไม้ขีดกับไฟแช็ก บทเรียนฝังใจ จำไม่ลืม
ตัวจริงมาเอง คมสันต์ ไขปม ไม้ขีดกับไฟแช็ก บทเรียนฝังใจ จำไม่ลืม
"ตี๋เล็ก มึxรู้ไหมว่าทำไมกล่องไม้ขีดไฟเขย่าแล้วถึงมีเสียง? เพราะข้างในไม่มีของไง มันถึงเสียงดัง… ของจริงน่ะ ไม่มีเสียง แล้วไวน์ที่มึxภูมิใจนักหนา... บอกเลยว่าห่วย!"
คำพูดนั้นกลายเป็นบทเรียนล้ำค่าที่เขาไม่เคยลืม และทำให้เขาเข้าใจว่า "ของจริง" ไม่จำเป็นต้องอวดเสียงดังเสมอไป
เขาสรุปแนวคิดไว้อย่างเจ็บลึกว่า
"หมาที่กัดคน มักไม่เห่า... หมาที่เห่าเสียงดัง อาจไม่กล้ากัด"
เมื่อย้อนกลับไปยังเนื้อหาของซีรีส์ "สงครามส่งด่วน" ตัวละคร "สันติ" ที่ใช้ไม้ขีดไฟ แท้จริงแล้วสะท้อนสถานะของเขาในตอนนั้นที่ยังไม่มีอะไรในมือ แม้กระทั่งไฟแช็กยังต้องยืมคนอื่น
ตรงกันข้ามกับ "เคน" ที่มีไฟแช็กติดตัวตั้งแต่ต้น แสดงถึงการเติบโตมาท่ามกลางความพร้อมและทรัพยากร
“ตีความกันเอาเองนะครับ ว่าซีรีส์ต้องการจะสื่ออะไร” คมสันต์ทิ้งท้ายอย่างมีนัย
ขอบคุณ Komsan Saelee