เดือด "ปอน นิพนธ์" ซัดแรง ปมใช้ยาแต่งเพลง ลั่นรักพี่เสก

กลายเป็นประเด็นร้อนในวงการเพลง เมื่อ "เจ๋ง บิ๊กแอส" ออกมาโพสต์เดือดพาดพิงถึง ปอน นิพนธ์ นักร้องดังเจ้าของเพลงฮิต Timemachine พร้อมข้อความแรงว่า "ขี้ยามาดิ้นแล้วปากดี" สาเหตุของดราม่านี้เกิดขึ้นหลังจากที่ เจ๋ง บิ๊กแอส เคยให้สัมภาษณ์เกี่ยวกับการใช้สารเสพติดในวงการศิลปิน โดยแสดงความคิดเห็นว่า "อย่าเป็นเลยศิลปิน ถ้าต้องพึ่งยาเสพติดเพื่อให้มีอารมณ์หรือฟิลลิ่งในการร้องเพลงหรือขึ้นคอนเสิร์ต ถ้ามันหมดไฟ หมดแพสชั่น ก็ควรหยุด ไปหาอย่างอื่นทำดีกว่า เพราะสุดท้ายแล้ว มันไม่เพียงแต่ทำร้ายตัวเอง แต่ยังเป็นการไม่ให้เกียรติทั้งตัวเองและแฟนเพลงที่รักและชื่นชมเรา  และยังย้ำอีกว่า "ผมเห็นจุดจบของคนติดยาเสพติดแล้วว่ามันพังขนาดไหน ข่าวก็มีให้เห็นกันทุกวัน

ซึ่งก่อนหน้านี้ เจ๋ง บิ๊กแอส เดือด โพสต์ฟาดกลางเฟซบุ๊ก Jeng Konalo ซัดแรงว่า "ขี้ยามาดิ้นแล้วปากดี มึงเป็นใคร ไม่มาปากดีต่อหน้ากูละ"

พร้อมยังแคปโพสต์ของ ปอน นิพนธ์ นักร้องเจ้าของเพลงฮิต "Timemachine" ที่ร้องร่วมกับ โต๋เหน่อ (ยอดวิวทะลุ 192 ล้านวิว) มาแนบ พร้อมข้อความสุดแซ่บว่า

"คุณก็แค่ศิลปินแทนวง เอาผลงานคนอื่นไปหากิน มาสั่งสอนนู่นนี่ เบอร์ใหญ่แล้วไง? ยังใช้เพลงที่คนอื่นแต่งหากินอยู่เลย ทำทรงรันเองอีก กูยอมใช้ยาเพื่อแต่งเพลง ดีกว่าไม่ใช้แล้วทรงเยอะ แต่เอาผลงานคนอื่นมาหากิน กูพี่รักเสก ผสมโค้กดิ้เพื่อน" เท่านั้นยังไม่พอ ปอน นิพนธ์ ยังพาดพิงถึง เสก โลโซ พร้อมประกาศชัด "รักพี่เสก!" งานนี้ดราม่าร้อนฉ่า

อย่างไรก็ตาม ทางเพจ ลองวิเคราะห์ดู ได้ออกมาเสนอแง่มุม ของพี่เสก โลโซ ว่า และสำหรับใครที่เอาพี่เสกมาโหนเรื่องการเสพยาพี่แกเองใช่ว่าจะมองว่ามันดี และแกก็เคยให้สัมภาษณ์ว่าแกทำเลิกได้เพราะแกทำเพื่อครอบครัว แต่ยังไงก็เถอะ ประเด็นนี้พี่เสกคง งง ว่าไปเกี่ยวอะไร? อยู่ของกุดี ๆ แล้วแท้ ๆ



 

แน่นอนว่างานนี้ชาวเน็ตเข้ามาแห่คอมเมนต์สนั่ อาทิ  ปรีชา ปัดภัย นักแต่งเพลงมากฝีมือก็คอมเมนต์ไว้ว่า ในฐานะคนสร้างงานด้วยกัน ในฐานะที่ชื่นชมผลงาน ไม่น่าให้สิ่งนี้หลุดออกมาจากปากนะครับ รสนิยมบางอย่างควรเก็บไว้ในที่ลับ มันอาจจะดูเท่ห์สุดโต่งกับคนที่ชอบและศัทธาท่าน แต่อย่าให้เรื่องพวกนี้กลายเป็นเรื่องปกติจนคนคิดว่าใครก็ทำได้เลย คำว่ายอมใช้ มันไม่ได้มีใครมาบังคับ มันคือรสนิยมทั้งนั้น แต่มันไม่ดีแน่ๆถ้ามันเป็นเรื่องปกติ จนใครคิดว่าก็ทำได้ ในนิยามของคำว่ายาเสพติด

ทว่าล่าสุดจากการที่ทีมข่าวไปตรวจสอบพบว่า โพสต์ดังกล่าวของ ปอน นิพนธ์ ได้ถูกลบไปแล้ว และทางเจ้าตัวก็ได้ปิดเพจไปแล้วอีกด้วย เหลือเพียงแค่เฟซบุ๊คส่วนตัวเท่านั้น