"กัสจัง" เผยสาเหตุหายไป 2 ปี ต้องรักษาวัณโรคเทียมที่หน้า ขาดรายได้หลายล้าน

เรียกได้ว่าห่างหายไปจากวงการบันเทิงนาน สำหรับ "กัสจัง" จิรันธนิน เน็ตไอดอลชื่อดัง ได้ออกมา เผยสาเหตุที่เธอหายไปถึง 2 ปี  โดย"กัสจัง"เผยว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ตนไม่เคยพูดในสื่อสาธารณะ และรู้เฉพาะแค่ในวงกลุ่มเล็ก ๆ เหตุที่กัสจังหายไปเกือบ 2 ปี เป็นเพราะว่าใบหน้าแก้มขวา "ติดวัณโรคเทียม" จนกัสจังต้องเสียงานและรายได้หลายล้าน รายได้ของตนตกลงมาก ไม่อัปเดตยูทูบเลย

 

 

กัสจังบอกว่า ในความเป็นจริงตนไม่ได้หายไปไหน แต่อยู่ในช่วงการรักษาวัณโรคเทียมที่หน้า ตนต้องใช้เงินหลักล้านในการรักษา เข้าโรงพยาบาลทุกอาทิตย์ เชื้อที่ขึ้นไม่สามารถฉีดยาหรือทำการรักษาได้

นอกจากคอยตรวจเลือด ตรวจเชื้อ และกินยาที่แรงมาก เพื่อจะบรรเทาอาการ ซึ่งไม่ได้การันตีว่าจะหาย รอยที่หน้าเดี๋ยวก็ยุบ เดี๋ยวก็นูน และต้องผ่าตัดหรือดูดเชื้อออกเป็นว่าเล่น ช่วงแรก ๆ ต้องทำวันเว้นวัน และเดี๋ยวก็มีแผลอีก แต่หลังจากที่เชื้อไม่ปะทุตัวสักพัก

ตอนนี้จึงได้ทำการรักษาผิวหนังบนใบหน้า และผ่าตัดเรื่อย ๆ และเหตุที่กัสจังไม่ลงรูป เพราะนอกจากหน้าไม่พร้อม จิตใจก็ไม่พร้อม ทำงานไม่ได้ จะไลฟ์ขายของก็ไม่ได้ หน้าเจ็บระบม ซึ่งช่วงที่หน้าติดเชื้อ กัสจังจะใช้สติ๊กเกอร์ฟรุ้งฟริ้งมาติดที่แก้มเพื่อปกปิดรอยบนใบหน้า

ในตอนนี้ กัสจังอยู่ระหว่างการพักฟื้น และคิดว่าหลังจากนี้ทุกอย่างน่าจะดีขึ้น กัสจังอาจจะไปเที่ยวต่างประเทศคนเดียวหรือพาแม่ไปด้วย ไปเก็บภาพบรรยากาศสวย ๆ แล้วมาทำคอนเทนต์พากษ์เสียง ช่วงที่ต้องรักษาตัว กัสจังเลยไปเรียนคอร์สต่าง ๆ เพื่อไม่ให้ตัวเองฟุ้งซ่าน สรุปเป็นบ้าแทนเพราะใช้เงินหมด

 

ทั้งนี้ กัสจังไม่ได้บอกว่าตนติดเชื้อวัณโรคเทียมนี้จากอะไร แต่มีแชทหนึ่งที่กัสจังลงและเหมือนเป็นการทวงถามความรับผิดชอบจากคน ๆ หนึ่งว่า "ในกรณีนี้อยากรู้ว่า ตามสัญญาจะมีการรับผิดชอบหากมีการผิดพลาดแบบนี้ ค่าใช้จ่ายทั้งหมดและค่าเสียเวลาของเรา ทางโรงพยาบาลทำอะไรไหมคะ ตอนสแกน อัลตราซาวด์ คือมีหนอง พอดูดจึงทราบว่าเกิดจากไขมันที่ตายตามปริมาณที่เห็น"

 

ทั้งนี้ วัณโรคเทียม หรือที่เรียกอีกชื่อหนึ่งว่า การติดเชื้อไมโคแบคทีเรียที่ไม่ก่อให้เกิดวัณโรค (Nontuberculous Mycobacteria - NTM) เป็นโรคติดเชื้อเรื้อรังที่เกิดจากแบคทีเรียชนิดหนึ่ง ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับเชื้อที่ก่อให้เกิดวัณโรค แต่ไม่ใช่ชนิดเดียวกัน แม้ชื่อจะคล้ายกัน แต่โรคทั้งสองมีความแตกต่างกันในหลายแง่มุม
 

ทำไมถึงเรียกว่า "วัณโรคเทียม"?

• เชื้อคล้ายกัน: เชื้อก่อโรคทั้งสองชนิดอยู่ในกลุ่มเดียวกันคือไมโคแบคทีเรีย
• อาการคล้ายกัน: โรคทั้งสองมีอาการที่คล้ายคลึงกัน เช่น ไอเรื้อรัง เหนื่อยง่าย
• การวินิจฉัยที่คล้ายกัน: การวินิจฉัยโรคทั้งสองต้องอาศัยการตรวจที่ซับซ้อนเช่นกัน