ขุนวรวงศาธิราช กษัตริย์ผู้ถูกมองว่าเป็นกบฏ หรือวีรบุรุษ
ปริศนาบนบัลลังก์ ขุนวรวงศาธิราช ผู้ก้าวขึ้นสู่บัลลังก์ด้วยความขัดแย้ง เป็นเพียงกบฏผู้แย่งชิงอำนาจ หรือเป็นวีรบุรุษที่ปกป้องแผ่นดิน?
ขุนวรวงศาธิราช คือใคร เบื้องหลังราชบัลลังก์ เรื่องราวของขุนวรวงศาธิราช เต็มไปด้วยความลับและปริศนาที่ยังคงถูกซ่อนเร้นไว้เบื้องหลัง ขุนวรวงศาธิราช เป็นหนึ่งในพระมหากษัตริย์แห่งกรุงศรีอยุธยาที่มีเรื่องราวชีวิตที่น่าสนใจและเต็มไปด้วยความขัดแย้ง พระองค์ถูกบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์ว่าเป็นผู้กอบกู้ราชวงศ์ แต่ในขณะเดียวกันก็ถูกมองว่าเป็นกบฏที่แย่งชิงอำนาจ ทำให้เรื่องราวของพระองค์เป็นปริศนาที่ยังคงถูกถกเถียงกันมาจนถึงปัจจุบัน
กษัตริย์ผู้ถูกมองว่าเป็นกบฏ
เหตุผลที่ขุนวรวงศาธิราชถูกมองว่าเป็นกบฏนั้นมาจากการที่พระองค์ขึ้นครองราชย์ด้วยการสืบทอดอำนาจจากนางพระยาแม่อยู่หัวศรีสุดาจันทร์ ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงอำนาจที่ค่อนข้างรวดเร็วและขัดต่อธรรมเนียมปฏิบัติเดิมของราชวงศ์ นอกจากนี้ การสวรรคตของพระมหากษัตริย์องค์ก่อนหน้าก็ยังเต็มไปด้วยปริศนา ทำให้เกิดข้อสงสัยว่าขุนวรวงศาธิราชอาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับการลอบปลงพระชนม์
วีรบุรุษผู้ปกป้องแผ่นดิน
ในอีกด้านหนึ่ง ขุนวรวงศาธิราชก็ถูกมองว่าเป็นวีรบุรุษที่เข้ามาปกป้องแผ่นดินจากศัตรูภายนอกและรักษาความมั่นคงของราชอาณาจักร พระองค์ได้ทำการปฏิรูปการปกครองหลายประการเพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งให้แก่ราชอาณาจักร และยังได้ส่งเสริมศิลปวัฒนธรรมให้เจริญรุ่งเรือง
พระราชประวัติของ ขุนวรวงศาธิราช
ขุนวรวงศาธิราชเดิมมีนามว่า บุญศรี พระองค์เสด็จพระราชสมภพในตระกูลอำมาตย์ (หรือพราหมณ์) และดำรงตำแหน่งเป็น พันบุตรศรีเทพ ผู้ดูแลหอพระข้างหน้า ทำหน้าที่สำคัญในการประกอบพิธีกรรมต่าง ๆ รวมถึงการขับเสภากล่อมสมเด็จพระไชยราชาธิราชให้บรรทม นี่จึงทำให้ขุนวรวงศาธิราชได้รับความไว้วางใจและมีโอกาสใกล้ชิดกับราชสำนักอย่างต่อเนื่อง ในบางทฤษฎีเชื่อว่าขุนวรวงศาธิราชอาจมีเชื้อสายสืบทอดมาจากเจ้าเมืองศรีเทพ หรือราชวงศ์อู่ทอง ซึ่งครองกรุงศรีอยุธยาในยุคก่อนหน้า
ความสัมพันธ์กับนางพระยาแม่อยู่หัวศรีสุดาจันทร์
เหตุการณ์สำคัญที่นำไปสู่การขึ้นสู่อำนาจของขุนวรวงศาธิราชคือความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับ นางพระยาแม่อยู่หัวศรีสุดาจันทร์ ซึ่งเป็นพระราชชนนีผู้สำเร็จราชการแทนสมเด็จพระยอดฟ้า หลังจากแม่อยู่หัวศรีสุดาจันทร์ได้ทอดพระเนตรเห็นพันบุตรศรีเทพ พระนางก็เกิดความพอใจและมีความรักใคร่ พระนางได้สั่งให้เลื่อนบรรดาศักดิ์ให้พันบุตรศรีเทพเป็น ขุนชินราช และต่อมาก็เป็น ขุนวรวงศาธิราช พระนางและขุนวรวงศาธิราชได้ลักลอบเป็นชู้กัน และวางแผนที่จะล้มล้างสมเด็จพระยอดฟ้าเพื่อให้ขุนวรวงศาธิราชขึ้นครองบัลลังก์
การขึ้นครองราชย์
ในปี พ.ศ. 2091 นางพระยาแม่อยู่หัวศรีสุดาจันทร์ได้อ้างว่า สมเด็จพระยอดฟ้า ยังทรงพระเยาว์และหัวเมืองฝ่ายเหนือก็ไม่สงบเรียบร้อย จึงให้ขุนวรวงศาธิราชเป็นผู้ว่าราชการแผ่นดินจนกว่าพระยอดฟ้าจะเจริญพระชนม์พอที่จะปกครองได้ จากนั้นได้มีการจัดพระราชพิธีบรมราชาภิเษกให้ขุนวรวงศาธิราชเป็นพระมหากษัตริย์แห่งกรุงศรีอยุธยา นอกจากนี้พระองค์ยังสถาปนานายจัน น้องชายของพระองค์เป็นพระมหาอุปราช
ภายหลังจากที่ขึ้นครองบัลลังก์ ขุนวรวงศาธิราชทรงสมคบกับนางพระยาแม่อยู่หัวศรีสุดาจันทร์ในการสำเร็จโทษสมเด็จพระยอดฟ้าที่วัดโคกพระยา
การล้มล้างอำนาจและการสังหาร
แม้ขุนวรวงศาธิราชจะได้ขึ้นครองราชย์แล้ว แต่การครองราชย์ของพระองค์ไม่ได้รับการสนับสนุนจากขุนนางและเชื้อพระวงศ์บางส่วน เนื่องจากพระองค์ไม่ได้ขึ้นสู่อำนาจโดยชอบธรรม กลุ่มขุนนางที่นำโดย ขุนพิเรนทรเทพ เจ้านายเชื้อสายราชวงศ์พระร่วง รวมทั้ง ขุนอินทรเทพ และขุนนางคนอื่น ๆ ได้รวมตัวกันเพื่อวางแผนล้มล้างอำนาจของขุนวรวงศาธิราช
ขุนพิเรนทรเทพและพรรคพวกวางแผนลอบปลงพระชนม์ขุนวรวงศาธิราชในขณะที่พระองค์เสด็จไปจับช้างเผือก หลังจากมีการยิงพระมหาอุปราชจัน น้องชายของพระองค์เสียชีวิตระหว่างทาง ขุนวรวงศาธิราชและนางพระยาแม่อยู่หัวศรีสุดาจันทร์จึงถูกลอบปลงพระชนม์ที่คลองสระบัว ข้างคลองปลาหมอ เหตุการณ์นี้เป็นการสิ้นสุดรัชสมัยของขุนวรวงศาธิราช
บทสรุป
เรื่องราวของขุนวรวงศาธิราชเป็นเรื่องราวที่ซับซ้อนและน่าสนใจ พระองค์เป็นทั้งกษัตริย์ผู้มีวิสัยทัศน์และผู้ที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นกบฏ ความจริงเกี่ยวกับพระองค์อาจจะไม่มีวันได้รู้แน่ชัด แต่การศึกษาเรื่องราวของพระองค์ก็เป็นการเปิดโอกาสให้เราได้เข้าใจถึงบริบททางประวัติศาสตร์และความซับซ้อนของมนุษย์มากยิ่งขึ้น
ที่มาจาก : ประวัติศาสตร์