เมืองลับแล ปัจจุบันเป็นอำเภอหนึ่งใน จังหวัดอุตรดิตถ์ มีชุมชนโบราณมาตั้งแต่สมัยกรุงสุโขทัย พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ได้เคยเสด็จมาเมื่อ ปี พ.ศ. 2444 ความเป็นมาของคำว่า “ลับแล” นั้น ตามข้อสันนิษฐานของสมเด็จกรมพระยาดำรงราชานุภาพ ว่า เดิมชาวเมืองแพร่ เมืองน่าน หนีข้าศึกและความเดือดร้อนมา ตั้งชุมชนอยู่บริเวณนี้ เนื่องจากเป็นที่ป่ารก หลบซ่อนตัวง่ายและ ภูมิประเทศเป็นเมืองอยู่ในหุบเขามีที่เนินสลับกับที่ต่ำ คนต่างเมืองถ้าไม่คุ้นเคยกับภูมิประเทศจะหลงทางได้ง่าย
ตำนานเมืองลับแล เมืองที่คนมีบุญเท่านั้นสามารถเห็นได้
อำเภอลับแล นอกจากจะมีโบราณสถานที่น่าสนใจมากมายแล้ว ยังเป็นแหล่งผลิตสินค้าหัตถกรรมพื้นเมืองล้านนา เช่น ผ้าตีนจก ไม้กวาด เป็นแหล่งปลูกลางสาด และทุเรียนหลง-หลินลับแล ซึ่งเป็นผลไม้ที่มีชื่อเสียงของจังหวัดอุตรดิตถ์
หากพูดถึงเมืองลับแล สิ่งที่เราเคยได้ยินก็คือ เมืองแม่หม่าย และตำนานเรื่องเล่าก็คือ มีเมืองอยู่เมืองหนึ่ง คนมีบุญเท่านั้นจึงจะได้เข้าไปถึงที่นี่ เมืองนี้เป็นเมืองของคนดี ถือสัจจะวาจาเป็นสำคัญ ใครประพฤติผิดไร้ซึ่งวาจาสัตย์ ต้องถูกเนรเทศออกจากเมืองในทันที ในเมืองลับแล มักมีคำพูดที่ได้ยินติดหูว่า “เมืองลับแลเขตห้ามพูดโกหก” คำกล่าวนี้มีที่มาจาก ตำนานที่เล่าสืบต่อกันมา
ตำนานเมืองลับแล เมืองที่คนมีบุญเท่านั้นสามารถเห็นได้
ครั้งหนึ่งหนุ่มเมืองทุ่งยั้ง เดินทางหลงไปในป่าเมืองลับแล แล้วไปพบสาวงามมาแอบซ่อนของไว้ ชายหนุ่มจึงแอบขโมยของนั้นมา และใช้เล่ห์กล จนสาวหลงเชื่อพาเข้าไปอยู่กินเป็นสามีในเมืองลับแล ชายหนุ่มได้เห็นเมืองที่อุดมสมบูรณ์และมีแต่สาวสวย ด้วยเหตุนี้เมืองลับแลจึงเป็นเมืองลี้ลับคนภายนอกไม่สามารถเข้าไปได้ อีกทั้งชาวเมืองลับแลจะยึดมั่นในศีลธรรมอันดีงาม เคร่งครัดในการปฏิบัติธรรมอยู่เสมอ ไม่มีการพูดโกหกหรือหลอกลวงกัน
ตำนานเมืองลับแล เมืองที่คนมีบุญเท่านั้นสามารถเห็นได้
อยู่มาวันหนึ่งชายหนุ่มกับหญิงสาวมีลูกด้วยกัน แต่หญิงสาวออกไปทำธุระนอกบ้าน ชายผู้นี้อยู่กับลูกแต่เด็กร้องไห้งอแงอยากหาแม่ จนชายผู้นี้พูดโกหกลูกว่า แม่มาแล้ว หวังจะให้เด็กหยุดร้องไห้ แต่ชาวบ้านได้ยินเข้าว่าหนุ่มผู้นี้พูดคำโกหก จึงขับไล่ออกจากหมู่บ้าน หญิงสาวสงสารไม่รู้จะช่วยอย่างไร ได้แต่เก็บของใส่ย่ามให้โดยบอกว่าห้ามเปิดดูก่อนถึงบ้าน ระหว่างทางชายผู้นี้ก็ได้เปิดดูเห็นว่าเป็นขมิ้น จึงหยิบทิ้งไปตามทางเพราะหนัก แต่พอถึงบ้านเหลือขมิ้นติดย่ามอยู่นิดหน่อยพอเปิดออกดูพบว่าเป็นทองคำ และหวังจะกลับไปเก็บตามทางแต่ก็ไม่พบทั้งทองคำและทางเข้าเมืองลับแล
หากท่านใดได้มีโอกาสแวะไป หรือเคยไปสัมผัสเมืองลับแล จังหวัดอุตรดิตถ์มาแล้ว สามารถแบ่งปันบอกเล่าประสบการณ์ความเชื่อ หรือเขาเล่า..ให้เพื่อนๆฟัง เกี่ยวกับเมืองลับแล ในมุมอื่นๆกันได้นะ
ตำนานเมืองลับแล เมืองที่คนมีบุญเท่านั้นสามารถเห็นได้
และนี่คือ ปฏิหาริย์ตำนานดัง เมืองลับแล จ.อุตรดิตถ์